Is IV Drip - Feeding Vitamins to the Skin Vital for Health, or Does It Pose Risks?

ยุคแห่งการแข่งขัน และเร่งรีบ การทำงานหนัก พักผ่อนน้อย บางครั้งส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย การดูแลร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็น แต่บางครั้งด้วยสถาณการณ์ เวลาอันจำกัด ทำให้เราขาดการดูแลสุขภาพ ได้รับวิตามิน หรือสารอาหารไม่เพียงพอ ส่งผลให้มีปัญหาสุขภาพมากมายตามมา เช่น เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ผิวพรรณไม่สดใส ภูมิคุ้มกันตก ฯลฯ เป็นต้น

การดริปวิตามินถือเป็นหนึ่งในทางเลือกในการดูแลสุขภาพจากภายในอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นการส่งตรงสารอาหาร และวิตามินต่างๆ เข้าสู่ภายในร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดริปวิตามิน เจาะลึกถึงประโยชน์ อันตราย และความจำเป็นก่อนการตัดสินใจรับบริการกันจ้า

การดริปวิตามิน (IV Drip) คืออะไร

การดริปวิตามิน คือ การให้วิตามิน หรือสารอาหารอื่นๆที่ร่างกายมีความต้องการผ่านทางหลอดเลือดดำ (intravenous) หรืออาจวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ร่างกายสามารถนำสารอาหารหรือวิตามินไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เนื่องจากเมื่อสารอาหารหรือวิตามินเข้าทางหลอดเลือด ทำให้สามารถกระจายไปได้ทั่วทุกส่วนในร่างกาย ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำไปใช้ได้ทันที

วิตามินหรือสารอาหารอื่นๆ ที่ใช้จะแตกต่างกันไปตามสูตรและความต้องการของผู้เข้ารับบริการ โดยจะประกอบไปด้วย วิตามิน B, C, กระอะมิโน (amino acid), แร่ธาตุต่างๆ และสารอาหารอื่นๆที่จำเป็น และมีประโยชน์ต่อร่างกาย

ก่อนเข้ารับบริการดริปวิตามินทางหลอดเลือด ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ได้สูตรวิตามินที่ตรงตามต้องการกับร่างกายของเรา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การดริปวิตามิน มีอันตรายไหม?

หากเราเลือกดริปวิตามินในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานจะไม่เป็นอันตราย ที่ เมดดิไซน์ คลินิก เลือกใช้วิตามิน และสารอาหารที่มีความปลอดภัย สถานพยาบาลมีความสะอาด และที่สำคัญ ยังอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ อย่างไรก็ตามอาจมีผลข้างเคียงที่ไม่อันตรายเกิดขึ้นได้ในบางคนได้ เช่น เกิดผื่น,เกิดรอยช้ำในบริเวณที่ให้ แต่จะสามารถหายได้เองภายใน 5-7 วัน  (อ่าน แนวทางการพิจารณาก่อนตัดสินใจดริปวิตามิน)

ข้อควรระวังในการดริปวิตามิน

• ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยา หรือวิตามิน ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อประเมินก่อนเริ่มดริปวิตามิน
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว และมียาที่รับประทานเป็นประจำ
• ผู้ที่เป็นโรค G6PD (Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase) ซึ่งทำให้เม็ดเลือดแดงแตกได้ง่าย
• ผู้ที่เป็นโรคไต (kidney disease) หรือมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ (heart conditions)
• หญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงที่กำลังให้นมบุตร
• ผู้ที่เป็นผื่น หรือมีแผลเปิดในบริเวณที่จะดริป

ดริปวิตามิน สามารถทำได้บ่อยแค่ไหน

ความถี่ที่ควรให้ ในระยะแรกควรให้อย่างต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เนื่องจากในช่วงแรกเราต้องการบูสต์ให้ร่างกายกลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อระยะเวลาผ่านไปจึงสามารถลดความถี่ในการให้ลงได้ ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

ดริปวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล

ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการดริปวิตามิน จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เนื่องจากสภาพร่างกายพื้นฐานของแต่ละคนต่างกัน แต่โดยทั่วไปแล้วผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่หลังดริปวิตามินไปครั้งแรก โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพมาก หรือร่างกายเสียสมดุลมากจะเห็นผลชัดเจน รู้สึกสดชื่น มีพลัง กระปรี้กระเปร่า หากเข้ารับบริการดริปวิตามินอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอจะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อช่วยปรับโดส ปริมาณและชนิดของวิตามินให้ตรงกับความต้องการของร่างกายอย่างปลอดภัย