Rejuran บูสผิวโกล์ว ฉ่ำวาว อิ่มฟู ดูอ่อนวัย

แม้ปัจจุบันมีสารเติมเต็ม เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ และอื่น ๆ คอยบูสผิวบนใบหน้าและเรือนกายให้อ่อนเยาว์คล้ายคงความงามให้หยุดนิ่งเหนือกาลเวลา ทว่าสารเติมเต็มเหล่านั้นต่างมีข้อจำกัดบางประการที่ไม่ตอบโจทย์กับสภาพผิวของคนบางกลุ่ม ทำเช่นไรจึงจะคงสภาพผลลัพธ์ให้ยงยืนนานโดยให้ผลข้างเคียงที่ต่ำ นวัตกรรมความงามจากแดนเกาหลีอย่าง Rejuran (รีจูรัน) พร้อมให้คำตอบแก่คุณ    

อย่างไรก็ตาม การเลือกโปรแกรมฉีด Rejuran ทันทีคงจะเร็วเกินไปสำหรับเรา หากเรายังไม่ล่วงรู้ประโยชน์โทษของมันอย่างดีพอ บางทีการรู้จักเจ้าสารสกัดที่เรียกว่า 'รีจูรัน' เสียก่อนว่าคืออะไร และค่อยมาเลือกที่พิจารณาทีหลังก็คงไม่สายเกินไปสำหรับเรา

Rejuran คืออะไร

Rejuran คือสารสกัด Polynucleotide (PN) เข้มข้นจากปลาแซลมอนป่าในแหล่งน้ำธรรมชาติบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสารที่มีความใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์อย่างมาก จึงมีส่วนช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย ให้กระชับเรียบเนียน อิ่มฟู ดูอ่อนวัยอีกครั้ง รีจูรันจึงเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่เหมาะตอบโจทย์ปัญหาหลุมสิว ผิวหยาบกร้าน มากริ้วรอยให้ลบเลือนโดยไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้านและให้ผลข้างเคียงต่ำ

หลักการทำงานของ Rejuran

วิธีการรักษาของ Rejuran จะใช้วิธีการฉีดสาร Polynucleotide (PN) ลงไปในชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) เพื่อกระตุ้นการทำงานต่าง ๆ เช่น การหลั่ง Growth Factors ต้านอาการอักเสบในผิว และช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ส่วนสำคัญสำหรับการสร้างคอลลาเจนซึ่งช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหนังให้มีความชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง เรียบเนียน กระจ่างใส

นอกจากนี้ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ทั้งสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำต่าง ๆ ได้อย่างดีอีกด้วย การรักษาด้วยวิธีการฉีด Rejuran จะต้องฉีดประมาณ 3-5 ครั้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการรักษา ทั้งนี้ควรทิ้งระยะห่างในการฉีดประมาณ 3-4 สัปดาห์ในแต่ละครั้ง เพื่อเห็นผลการรักษาได้ชัดมากขึ้น

ข้อดีของการฉีด Rejuran

เนื่องจากว่ารีจูรันทำมาจากสารสกัดเข้มข้นบริสุทธิ์จากปลาแซลม่อนธรรมชาติ ดังนั้นข้อดีคือปลอดภัยสูง และโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่น้อยมาก พร้อม 7 ผลลัพธ์หลังฉีด Rejuran ตามต่อไปนี้

ควรเตรียมตัวก่อนฉีด Rejuran อย่างไร

แพทย์จะตรวจสอบก่อนว่าผู้ป่วยมีอาการแพ้อาหารทะเล หรือแพ้ปลาแซลม่อนหรือไม่ เนื่องจากสารสกัดของ Rejuran มาจากปลาแซลมอน ทั้งนี้ยังต้องตรวจสอบด้วยว่า ผู้ป่วยใช้ยากลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด (NSAIDs) ร่วมกับมีโรคประจำตัว เช่น โรคผิวหนังอักเสบ โรคภูมิแพ้ โรคเยื่อบุโพรงหัวใจหรือไม่ และอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์

อาการหลังฉีด

• ช่วงพักฟื้น 1 - 2 วัน
• อาจมีรอยแดงและตุ่มนูนบริเวณที่ฉีดหลังทำช่วง 1 สัปดาห์
• บางรายอาจมีอาการผิวแห้งหลังฉีดในรอบ 4 วันหลังเข้ารับการรักษา

**อาการข้างเคียงอาจเกิดต่างกันในแต่ละบุคคล

ข้อปฏิบัติหลังการฉีด Rejuran

โดยปกติแล้ว หลังเข้ารับการรักษา ผู้สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่ยังมีบางข้อที่ผู้ป่วยต้องคำนึงเพื่อให้ผลลัพธ์หลังรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่

• เลี่ยงการสัมผัสบนใบหน้าประมาณ 2-3 ชั่วโมง
• ดื่มน้ำหรือทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า
• เว้นกิจกรรมกลางแจ้งหรือกิจกรรมใด ๆ ที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น
• งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำลายผิวโดยตรง
• หากเกิดรอยแดงช้ำบนผิวหนังหลังเข้ารับการรักษา สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อลดอาการระคายเคือง
  

Rejuran มีกี่ประเภท

รีจูรัน (Rejuran) แบ่งเป็น 3 แบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละผิว ดังนี้

1. Rejuran Healer ใช้บริเวณทั่วใบหน้า

สำหรับผู้สายสวยเน้นฟื้นฟูแบบฟูลเทิร์น Rejuran Healer กล่องสีดำจัดเป็น Skin Booster ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวเรียบเนียนอิ่มฟูทุกองศาได้อย่างดี

2. Rejuran I  ใช้บริเวณผิวรอบดวงตา

แต่งแต้มและเติมเต็มผิวสวยรอบดวงตาและรอบปากแบบหยั่งลึกด้วย Rejuran I ให้หน้านั้นเปล่งปลั่งกระชับได้รูปเหมาะเป็นตัวช่วยลดเลือนรอยตีนกาให้แลจาง

3.  Rejuran S ใช้ไขปัญหาหลุมสิว

Rejuran S ชุดกล่องสีน้ำเงิน ซึ่งทรงอานุภาพฟื้นบำรุงผู้มีปัญหาแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หลุมสิว เป็นต้น 

ใครเหมาะสำหรับฉีด Rejuran

• ผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้ามีความเปล่งปลั่ง ฉ่ำวาว
• ผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้ามีความอ่อนวัย เรียบเนียน กระชับ
• ผู้ที่มีริ้วรอยบนผิวหน้าต่างๆ ทั้งกระ ฝ้า หลุมสิว รูขุมขนกว้าง รอยด่างดำ
• ผู้ที่มีผิวหนังแห้งเสีย และต้องการฟื้นฟูผิวหนังให้กลับมาดีอีกครั้ง
• ผู้ที่มีความต้องการปรับความสมดุลความมันบนผิวหน้า

ไม่เหมาะกับใคร

• ผู้ที่มีอาการแพ้อาหารทะเล แพ้ปลาแซลม่อน
• สตรีมีครรภ์
• ตามดุลยพินิจของแพทย์

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรีจูรัน

ถาม : ควรได้รับการฉีดรีจูรันบ่อยแค่ไหน?

รีจูรันไม่ใช่ฟิลเลอร์ทั่วไป Rejuran กระตุ้นการเสริมสร้างผิวจากภายใน เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิว โดยปกติผิวจะได้รับการฟื้นฟูด้วยการรักษาจำนวน 4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 2-3 สัปดาห์ หลังจากน้ันควรรับการรักษาทุก 6 เดือน เพื่อคงสภาพผิวที่มีสุขภาพที่ดี

ถาม : ผู้รับการรักษาสามารถใช้ชีวิตตามปกติหลังการรักษาได้หรือไม่?

หลังการรักษาอาจจะมีการบวมหรือตุ่มเล็กๆ บนผิว ซึ่งเกิดขึ้นทันทีหลังการรักษา และจะหายไปประมาณ 1-7 วัน จึงจะสามารถกลับมาทำกิจกรรมตามปกติได้ (ระยะเวลาอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล)

ถาม : ผิวหนังส่วนใดจะได้ประโยชน์จากการรักษา?

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรรับการรักษาทั่วใบหน้าไม่เพียงแค่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง Rejuran ช่วยชะลอวัยและฟื้นฟูผิวที่โดนทำร้ายจากปัจจัยต่างๆ

ถาม : การรักษามีผลข้างเคียงหรือไม่?

Rejuran มีส่วนประกอบของชิ้นส่วน DNA บริสุทธิ์ซึ่งเข้ากันกับเนื้อเยื่อของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี Rejuran จึงช่วยฟื้นฟูสภาพผิวโดยปราศจากผลข้างเคียงใดๆ มีความปลอดภัย และมีประสทิธภาพในการรักษาผิว ที่อาจจะไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วย Hyaluronic Acid

ถาม : วิธีการใดที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดความเจ็บจากการรักษา?

การฉีดด้วยเข็มขนาดเล็กด้วยความเร็วใต้ผิวหนัง และการผสมยาชาอาจช่วยลดความเจ็บจากการฉีดได้ หรืออาจรับประทานยาแก้ปวดก่อนรับการรักษาได้

ถาม : Rejuran สามารถใช้ร่วมกับฟิลเลอร์อื่นๆ ได้หรือไม่?

ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ หากไม่มีการแพ้ก็อาจใช้ร่วมกันได้ และควรฉีดอยู่บนชั้นผิวหนัง ที่แตกต่างกัน ในทางทฤษฎีควรฉีดฟิลเลอร์อื่น ห่างจากการฉีด Rejuran อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์

Rejuran ราคาเท่าไหร่

การฉีด Rejuran ในปัจจุบันตามคลินิกต่างๆ มีหลากหลายราคา ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ ในส่วนราคาของ Rejuran ที่ Medisci Center ฉีดด้วย Rejuran นำเข้าอย่างถูกต้อง, ทุกเคสฉีดโดยคุณหมอ โดยมีราคามีดังนี้

1. Rejuran Healer = 15,000 บาท (2 cc)
2. Rejuran i = 10,000 บาท
3. Rejuran s = 10,000 บาท