Bach’s Flower Remedies ผ่อนคลายเครียดด้วยวิถีดอกไม้บำบัด

กุหลาบสวย ย่อมมีหนาม ดอกไม้งามมิได้มีแค่กลิ่นหอม แต่ยังเปี่ยมพลังแฝงเร้นคอยสลายความเครียดซึ่งเกราะกำบังชีวิตผู้คนให้จางหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ ‘Calming Power of Flower’ สมญานามนี้มิได้ตั้งแค่เพียงเจ้ากุหลาบ แต่มอบแก่มวลหมู่ดอกไม้ทั้งปวง ผ่านวิถีบำบัดอย่าง Bach’s Flower Remedies ซึ่งมีชื่อเสียงและนิยมใช้แพร่หลายทั่วโลกจวบจนปัจจุบัน

            เมื่อโลกเปลี่ยนเร็วกว่าที่เคย ผู้คนเริ่มปรับตัวไม่ทันการ ความเครียดก็ย่อมตามมาเป็นเงาตามตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ และยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตจนทำให้ร่างกายเริ่มแห้งเหี่ยวและโรยร่ำลาโลกก่อนวัย หลายครั้งผู้คนหันหาการรับประทานยาเคมีเป็นทางเลือก ทว่าก็มีข้อจำกัดที่ผลข้างเคียง บางทีวิถีดอกไม้บำบัดอย่าง Bach’s Flower Remedies อาจเป็นคำตอบที่ดีสำหรับเสริมภูมิคุ้มกันและสลายความเครียดที่เปรียบเสมือนเมฆหมอกมัวใจให้ทุเลาจาง

ความเครียดส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันนั้นอ่อนแอลง

 มีงานศึกษาและวิจัยมากมายตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาที่พูดถึงความจริงที่ว่า ความเครียด มีผลต่อสภาวะทางสุขภาพของคนเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกัน จากงานวิจัยหนึ่งเมื่อปีค.ศ. 1982 ซึ่งศึกษาสภาวะระบบภูมิคุ้มกันของนักศึกษาในช่วงสอบ พบว่าระบบภูมิคุ้มกันทำงานแย่ลงเรื่อย ๆ เนื่องจากนักศึกษาเหล่านั้นต่างมีจำนวน Natural Killer Cell ซึ่งเป็นตัวต่อสู้กับเชื้อไวรัสและกลุ่มเนื้องอกในปริมาณที่น้อยมาก อีกทั้งยังไม่มีการสร้าง Gamma Interferon และ T-cell ไว้คอยต่อต้านการติดเชื้อ

            และนับจากช่วงทศวรรษที่ 1980 เป็นต้นมาก็ยิ่งมีงานวิจัยที่ศึกษาเรื่องความเครียดซึ่งสัมพันธ์กับระบบสุขภาพเพิ่มขึ้นอีก 300 ชิ้น โดยงานศึกษาจำนวนหนึ่งได้ทำให้เราเห็นว่า ยิ่งเครียดนานเท่าไหร่ ระบบภูมิคุ้มกันยิ่งแย่ลงเท่านั้น และถ้าหากสิ่งเหล่านี้เกิดแก่คนอายุมาก มีโรคประจำตัว หรือมีร่างกายอ่อนแอร่วมด้วยก็ยิ่งส่งผลให้อาการทรุดหนัก ฟื้นตัวจากบาดแผลยากกว่าเดิม

Homeopathy ฟื้นคืนชีพพลังกายและจิตด้วยธรรมชาติบำบัด

Homeopathy คือศาสตร์การแพทย์แนวธรรมชาติบำบัด โดยใช้สารธรรมชาติมากระตุ้นให้ร่างกายฟื้นฟูและบรรเทาอาการเจ็บป่วยด้วยตนเอง ทั้งยังได้รับการพัฒนาศาสตร์การรักษาให้เข้ากับองค์ความรู้ทางการแพทย์แผนปัจจุบันจนเกิดแนวทางการรักษาแบบใหม่ที่เรียกว่า ศาสตร์การแพทย์ธรรมชาติบำบัดผสมผสานแบบ PRM (Physiological Regulating Medicine) ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยเสริมการรักษาโรคต่าง ๆ ซึ่งให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพดีและไร้ผลข้างเคียง

Bach’s Flower Remedies คืออะไร

Bach’s Flower Remedies (BFRs) คือธรรมชาติบำบัดชนิดหนึ่งซึ่งได้รับการคิดค้นโดย ดร. เอ็ดวาร์ด บาค (Ed Bach) แพทย์ พยาธิแพทย์ (Pathologist) นักแบคทีเรียวิทยา (Bacteriologist) และนักธรรมชาติบำบัดจากประเทศอังกฤษ โดยเน้นรักษาสมดุลทางอารมณ์ผ่านการนำดอกไม้และส่วนประกอบพืชกว่า 38 ชนิดที่มาคัดเลือกก่อนปรุงจนได้ Flower Remedies ที่เหมาะสมสำหรับใช้รักษาสภาวะอารมณ์ของบุคคล ซึ่งบาคได้แยกกลุ่มอารมณ์ด้านลบไว้ 7 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

1. ความกลัว (Fear)
2. ความไม่มั่นใจ (Uncertain)
3. ความไม่อยู่กับปัจจุบัน (Not Sufficient in present circumstances)
   
4. ความรู้สึกโดดเดี่ยว (Loneliness)
5. ความรู้สึกอ่อนไหวเป็นพิเศษ (Over-sensitivity to influences and Idea)
6. ความรู้สึกสิ้นหวัง (Despair)
7. การห่วงพะวงเรื่องของคนอื่นหรือสิ่งอื่นมากเกินไป (Over-care for the welfare of other)

Bach’s Flower Remedies ดีอย่างไร

เนื่องด้วย Bach’s Flower Remedies เป็นการบำบัดกายและใจด้วยสารธรรมชาติซึ่งมิได้ออกฤทธิ์เป็นเคมี จึงไม่เกิดการสะสม กดอาการจนก่อผลข้างเคียงตามมาภายหลัง นอกจากนี้ยังใช้ผสานกับการรักษารูปแบบอื่น ทั้งการแพทย์ทางหลักและทางเลือกโดยไม่รบกวนการรักษา จนกลายสิ่งที่เหล่าแพทย์หลายคนต่างขานนามว่าเป็น Complimentary Medicine อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ Bach’s Flower Remedies สามารถทุเลาปัญหาสุขภาพได้หลายประการ ได้แก่

• บรรเทาความเครียดซึ่งส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน
• ปรับสมดุลสภาวะอารมณ์อื่นซึ่งส่งผลต่อระบบองค์รวมของร่างกาย
• ปลดเปลื้องจากความวิตกกังวล นอนไม่หลับและอาการซึมเศร้า

การเข้ารับการรักษาด้วย Bach’s Flower Remedies

เมื่อเข้ารับคำปรึกษาและวินิจฉัยจากแพทย์หรือผู้บำบัดเพื่อวิเคราะห์สภาวะอารมณ์จนแล้วเสร็จ แพทย์จะเริ่มเลือกใช้ Flower Remedies ในสัดส่วนผสม (Combination) วิธีการและระยะเวลาที่พอเหมาะแก่บุคคล ซึ่งจะได้ผลการรักษาช้าหรือเร็วนั้นก็แล้วแต่สภาพกายและจิต ณ ช่วงเวลาผ่านมา หากผู้เข้ารับการรักษาพึ่งเกิดภาวะเครียดได้ไม่นาน ก็สามารถฟื้นคืนสภาพจิตใจได้ดีกว่าผู้ที่มีสภาวะอารมณ์ไม่คงที่หรือความเครียดเรื้อรัง

อย่างไรก็ตาม แพทย์จะเริ่มนัดหลังเข้ารับการรักษาด้วย Bach’s Flower Remedies ราว 2 – 3 สัปดาห์เพื่อให้ผลการรักษายั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้การดูแลจากแพทย์หญิงณิชา ตั้งภาพงษ์ ผู้ชำนาญการด้านการแพทย์ผสมผสาน ร่วมกับธรรมชาติบำบัด (Hemeopathy) และบุปชาติบำบัด (Flower Essence) มาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี