ความสวย เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับผู้หญิง หลาย ๆ คนก็เลือกวิธีทำสวยที่ต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น การดูแลตัวเอง ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย การเข้าสปา อบผิวด้วยความร้อน เพราะความร้อนจะทำช่วยในเรื่องการขับของเสียออกจากร่างกาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ความเย็น ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ทำให้เราหุ่นสวย และยังช่วยรักษาโรคได้อีกด้วย
การรักษาด้วยความเย็น เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยนำมารักษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา กระตุ้นระบบภูมิต้านทาน ใช้รักษาโรค ที่ใช้กันอยู่ประจำแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
หรือที่เราเห็นง่าย ๆ เลยคือ ถุงเย็น (Coolpack) จะมีความเย็นประมาณ 10 - 20 องศา รักษาโดยการประคบที่ผิวหนัง ทำให้กล้ามเนื้อของหลอดเลือดมีการหดตัว และคลายตัวออก เพื่อช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนของเลือด ช่วยในเรื่องของระบบประสาท สามารถลดอาการเจ็บปวดได้ ลดการเกร็งตัว ลดอาการอักเสบ อีกทั้งยังช่วยลดอัตราการบาดเจ็บของเซลล์ต่าง ๆ ในแผลที่โดนความร้อนได้
การใช้ความเย็นแบบลึกเป็นการรักษาด้วยความเย็นจุดเยือกแข็งมีความเย็นตั้งแต่ -40 จนถึง -20 องศา เพื่อช่วยลดการเผาผลาญของเซลล์เพิ่มการรอดชีวิตของเซลล์ที่บาดเจ็บ ลดการอักเสบ ลดอาการปวดและเรื่องของระบบไหลเวียนให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นรูปแบบการรักษาที่มีมานานแล้วโดยใช้ตู้ความเย็นที่มีอุณหภูมิติดลบเป็นร้อยองศา รักษาโรคในกลุ่มของคนที่เป็นโรคภูมิต้านทานผิดปกติ โรคเรื้อนกวาง สะเก็ดเงิน โรคข้ออักเสบหรืออาการบาดเจ็บอื่น ๆ และที่สำคัญยังสามารถใช้ในเก็บรักษาเซลล์ต่าง ๆ ได้ ต่อมาได้มีการพัฒนาการรักษาด้วยความเย็น เข้ามาช่วยทำให้แก่ช้าลง ด้วยการลดการเผาผลาญของเซลล์ ลดความเสื่อมของเซลล์ เพิ่มอัตราการรอดชีวิตของเซลล์ เป็นการชะลอวัยอีกรูปแบบหนึ่ง นอกจากนั้นการรักษาด้วยการใช้ความเย็น ยังช่วยในเรื่องความสวยความงาม และรักษาโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย
Coolsculpting เทคโนโลยีความเย็น เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถทำการรักษาโรคต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องรักษาแผลนาน ไม่เสี่ยงติดเชื้อจากการผ่าตัด รวมไปถึงการรักษาสิว ฝ้า ลดเลือนริ้วรอย และยังช่วยในการลดสัดส่วนได้อีกด้วย การรักษาโรคหรือปัญหาต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีความเย็น มีข้อจำกัดที่ต้องใช้การควบคุมการรักษาเป็นพิเศษ จึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเท่านั้น ซึ่งช่วย