Venus Legacy เทคโนโลยีกระชับผิวและทรวดทรงในตำนานจากแคนนาดา

Venus legacy

Venus Legacy คืออะไร


Venus Legacy คือเครื่องมือแพทย์จากบริษัทวีนัสคอนเซปต์ (VenusConcept) ประเทศแคนาดา ซึ่งใช้ดูแลรูปร่างให้กระชับได้สัดส่วน เลือนริ้วรอย ลดรอยแตก ทั้งยังช่วยให้ผิวตึงตัวเรียบเนียนและเลือดไหลเวียนสะดวกมีสุขภาพดี โดยอาศัยเทคโนโลยี 4D Venus Legacy ทำให้ทุกการรักษา ไร้ความเจ็บปวด ความเสี่ยงต่ำ และให้ผลผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใต้การควบคุมของแพทย์

 


Venus legacy

หลักการทำงาน


Venus Legacy อาศัยเทคโนโลยี 4D Venus Legacy ซึ่งรวมเทคโนโลยี 4 ตัวไว้ในหนึ่งเดียว ประกอบด้วย

1.  เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุหลายขั้ว (Multi-Polar RF) ความถี่ 1 MHz ใช้ส่งพลังงานความร้อนช่วง 46 - 50 องศาสู่ชั้นผิวลึกถึงชั้นไขมันราว 3.75 เซนติเมตร

2.  เทคโนโลยีสนามแม่เหล็ก (Pulsed Magnetic) จากเทคโนโลยีการแพทย์ดั้งเดิมซึ่งมีมานานกว่าหลายทศวรรษซึ่งช่วยฟื้นฟูเซลล์ได้มีประสิทธิภาพ 

3.  เทคโนโลยีวารีเพาส์ (Vari-Pulse) ช่วยปรับจังหวะการดูด การยิงพลังงานเจาะลึก  และการนวดอย่างนุ่มนวล ซึ่งกระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองและการไหลเวียนทั่วไปได้เป็นอย่างดี

4.  เรียลไทม์เทอร์มอลฟีดแบ็ก (Real-Time Thermal Feedback) ช่วยบอกผลการทำงานของความร้อนทันทีตามเวลาจริง โดยประสานการทำงานของเครื่องวัดอุณหภูมิแบบแฮนด์ฟรีกับกราฟที่สามารถมองเห็นได้บนหน้าจอ


ประสิทธิภาพของ Venus Legacy


ด้วยการผสมผสานของเทคโนโลยีทั้ง 4 ซึ่งทรงประสิทธิภาพและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ Venus Legacy สามารถส่งพลังงานลงสู่ใต้ผิวจนเกิดความร้อนราว 46 - 50 องศาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คอลลาเจนหดตัวและเซลล์ไขมันสั่นสะเทือนจนปล่อยกรดไขมันเหลวออกมาซึ่งเป็นเหตุให้ความหนาของผิวชั้นไขมันลดลง ทั้งยังจัดเรียงโครงสร้างผิวใหม่ให้แน่นกระชับตลอดทั้งใบหน้าและลำตัว

Venus legacy

Venus Legacy เหมาะสำหรับ


  • ลดเซลลูไลท์
  • ลดเลือนริ้วรอย
  • ลดขนาดของเส้นรอบวง
  • กระชับผิว
  • ลดเลือนรอยแตกลาย
  • ขับของเสียและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต

 

ไม่เหมาะสมกับใคร


  • มีอาการอักเสบ หรือติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่ต้องการทำการรักษา
  • ผู้ที่เป็นมะเร็ง หรือมีเซลล์ที่สามารถกลายเป็นมะเร็งได้โดยเฉพาะในบริเวณที่ทำการรักษา
  • มีภาวะเสื่อมทางระบบประสาท
  • เป็นโรคที่สามารถกระตุ้นได้โดยความร้อน เช่น เริมในบริเวณที่ต้องการรักษา
  • ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ เครื่องควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ
  • ใส่โลหะไว้ในร่างกายในบริเวณที่ต้องการทำการรักษา (ยกเว้นอุปกรณ์ทำฟัน)
  • มีความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ที่ไม่สามารถควบคุมได้
  • เป็นเส้นเลือดขอด
  • ตั้งครรภ์ หรือ ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
  • มีอาการทางผิวหนังที่เกี่ยวกับโรคภูมิต้านทานตนเองบกพร่อง
  • มีการฉีดหรือเสริมซิลิโคนในผิวหนังบริเวณที่ต้องการทำการรักษา
  • ตามดุลยพินิจของแพทย์


ผู้ที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรักษา


  • มีการฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณที่ต้องการทำการรักษา (ให้เว้นระยะ 1 เดือนหลังจากมีการฉีดโบท็อกซ์ครั้งล่าสุดก่อนมารับการรักษา)
  • กำลังเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดา
  • เป็นโรคลมบ้าหมู
  • มีการทำเลเซอร์และการผลัดลอกเซลล์ผิวด้วยสารเคมีภายใน 1 เดือนก่อนมารับการรักษา
  • มีแผลเป็น บาดแผล หรือมีรอยถลอกที่เกิดใหม่ในบริเวณที่ต้องการรับการรักษา
  • มีภาวะเส้นเลือดฝอยขยายตัวผิดปกติ
  • ไม่แนะนำให้ทำบริเวณเหนือต่อมไทรอยด์
  • มีการใช้กรดวิตามินเออย่างต่อเนื่อง (เช่น โรแอคคิวเทน)
  • เพิ่งได้รับการฉีดฟิลเลอร์
  • เพิ่งได้รับการผ่าตัด
  • ผื่นแดงบนใบหน้า (Rosacea) (ไม่แนะนำให้ทำบริเวณใบหน้า แต่สามารถทำบริเวณอื่น ๆ ได้)


ขั้นเตรียมตัวก่อนการรักษา


  1. ถอดเครื่องประดับ หรือ วัสดุที่เป็นโลหะออกทั้งหมด
  2. ทำความสะอาดบริเวณที่ทำการรักษาให้ปราศจากโลชั่น หรือ เครื่องสำอาง
  3. ในกรณีทำการรักษาบริเวณหน้าท้อง ควรรับประทานอาหารมาก่อนอย่างน้อย 30 นาที
  4. หากเลือกรักษาบริเวณใบหน้า ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์มาก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และเว้นระยะห่างจากการฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์อย่างน้อย 1 เดือน*
  5. ในกรณีทำการรักษาบริเวณหน้า ควรเว้นระยะห่างจากการร้อยไหมละลายอย่างน้อย 1 - 3 เดือน*
  6. ตามดุลยพินิจของแพทย์


ข้อควรปฏิบัติหลังการรักษา


  1. ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ วันละ 2 - 3 ลิตรต่อวัน
  2. ไม่ควรเข้าซาวน่าหลังการทำทรีตเมนต์
  3. ในกรณีทำทรีตเมนต์บริเวณลำตัว ไม่ควรรับประทานอาหารหลังการทำทรีตเมนต์ทันทีควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 ชั่วโมง




สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้