Ultherapy กุญแจไขความงามของใบหน้า

Ultherapy

เขาเล่ากันว่า “ใบหน้าเปรียบเสมือนประตูบานแรกของหัวใจ” ก็คงไม่ผิดนัก เนื่องจากเป็นด่านแรกที่ไม่ว่าใครเห็นก็ย่อมรู้สึกสบายตาสบายใจ แต่หากปล่อยใบหน้าเหล่านั้นไว้จนเสื่อมโทรมไปตามกาลก็คงไม่ดีนัก สำหรับใครที่กำลังหาหนทางฟื้นคืนความมั่นใจแก่ใบหน้าให้งดงามคล้ายคนลืมวัย Ultherapy นวัตกรรม High-Focused Ultrasound (HIFU) ล่าสุดพร้อมปลุกความงามที่ซุกซ่อนอยู่ให้ลืมตาตื่นจากผิวที่ร่วงโรยตามวัย


จาก HIFU สู่นวัตกรรม Ultherapy


หากอารัมภบทถึงเครื่องคลื่นอัลตราซาวน์ยกกระชับหน้าก็คงไม่พลาดจะกล่าวถึง HIFU ซึ่งเป็นเทคโนโลยีตัวต้นแบบซึ่งได้รับการพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็น Ultherapy ที่ทั่วโลกต่างรู้จักในปัจจุบัน แน่นอนว่าหากพูดให้ถูก ตัว HIFU หรือที่ย่อมาจาก High-Intensity Focused Ultrasound คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีอานุภาพส่งคลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูงสู่ใต้ชั้นผิวเพื่อใช้รักษามะเร็งและเนื้องอกตามอวัยวะต่าง ๆ โดยไม่ต้องผ่าตัด ก่อนจะหยิบประยุกต์ใช้ในวงการความงามในเวลาต่อมา

ปัจจุบัน MERZ Aesthetics บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมเครื่องแพทย์ด้านความงามได้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและคงผลลัพธ์ได้ยืนนานจนกลายเป็นนวัตกรรมที่ชื่อว่า Ultherapy ในปัจจุบัน


จุดเด่นที่ Ultherapy ได้รับการต่อยอดจาก HIFU

  • ความลึก (Depth): อัลเทอราพีสามารถส่งพลังงานลงสู่ชั้นผิวที่ต้องการได้แม่นยำกว่า เนื่องจากหน้าจอ (Visualization) คอยฉายสภาพเนื้อเยื่อผิวแต่ละชั้นแบบ Real-time ก่อนตั้งค่าพลังงานส่งลงไปตามความเหมาะสม
  • ความปลอดภัย (Safety): อัลเทอราพีได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยทางคลินิกกว่า 50 ชิ้นร่วมกับงาน peer review กว่า 90 ชิ้นซึ่งผ่านการทดสอบทั้งกลุ่มผู้เข้ารับการรักษาทั้งชาวเอเชียและต่างประเทศ
  • การคงสภาพผลลัพธ์ (Long-lasting Effect): ทำอัลเทอราพีเพียง 1 ครั้ง/ปี ก็สามารถคงสภาพผลลัพธ์ได้นานกว่าการทำ HIFU ที่ต้องทำ 3 – 4 ครั้ง/ปี


ข้อแนะเพิ่มเติม

แม้ว่า HIFU จะเป็นเทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวน์จะใช้รักษาปัญหา ทว่ามีผู้คนไม่น้อยต่างประสบพบเจอสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาหากมิได้รับการรักษาด้วย HIFU จากคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีการรับรองความปลอดภัยภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังผู้ชำนาญการ ซึ่งสำหรับใครต้องทราบข้อระวังเพิ่มเติมสามารถตามอ่านบทความ HIFU ดูดี ๆ

 

Ultherapy: ทรงประสิทธิภาพการยกกระชับไปอีกขั้น


 Ultherapy หรือ Ultherapy SPT คือเทคโนโลยี Microfocused Ultrasound with Visualization (MFU-V) (นำมาจาก Ultherapy White Paper: Mechanism of Action MOA) ซึ่งได้รับการรับรองจาก US-FDA ให้เป็นนวัตกรรมระดับ Gold Standard ด้านยกกระชับผิวหน้า คาง คอและเนินอกโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ก่อบาดแผลใด ๆ ผ่านการส่งพลังงานความร้อนชนิด Focused Ultrasound ลงสู่ชั้นผิวหนังตั้งแต่ชั้นหนังแท้ ชั้นไขมัน หรือแม้แต่ผิวชั้นลึกอย่าง SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) ได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพในระยะเวลาอันสั้น ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาอื่นสำหรับบรรเทาปัญหาหลุมสิว รอยแตกและเซลลูไลท์ โดยอาศัย Visualization Technology ฉายสภาพเนื้อเยื่อแต่ละชั้นก่อนเลือกวิถีการปล่อยพลังงานที่เหมาะสมตามแต่บุคคล

 


SPT มาจากไหน


หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า SPT คือชื่อรุ่นของตัว Ultherapy ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือชั้นกว่าอัลเทอราพีแบบปรกติ ทว่าแท้จริงแล้ว SPT คือกระบวนแผนการรักษาแบบใหม่เพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษาได้รับคุณประโยชน์สูงสุดจากอัลเทอราพี ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่

  • See: พิจารณาปัญหาผิวของแต่ละบุคคลผ่าน Visualization Technology ที่ฉายสภาพทางกายวิภาคของชั้นเนื้อเยื่อผิวหนังแบบละเอียด ร่วมกับการคำนึงถึงปัจจัยภายในและภายนอก
  • Plan: บันทึกและประเมินอาการก่อนวางแผนการรักษาที่เหมาะสมตามสภาพปัญหาผิวของแต่ละบุคคลผ่าน Ultherapy SPT Patient Planning Record ร่วมกับขจัดความกังวลของผู้เข้ารับการรักษาให้เบาบางลง
  • Treat: เลือกระดับและวิถีการปล่อยพลังงานสู่ชั้นผิวเป้าหมายที่มีแม่นยำ เหมาะสมและมีประสิทธิภาพก่อนลงมือรักษา


Ultherapy

หลักการทำงาน


Ultherapy เป็นการบำบัดผิวด้วยเทคโนโลยีพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์แบบ Inside – Out ผ่านกลไกการทำงาน 3 ระดับ เริ่มแรกแพทย์จะใช้อัลเทอราส่งคลื่นพลังงานลงสู่เนื้อเยื่อชั้นผิวแท้และชั้นไขมัน (Subcutaneous Tissue) โดยเป็นแหล่งรวมเส้นใยคอลลาเจน ณ อุณหภูมิที่ 60 – 70 องศาเซลเซียสจนก่อเกิดกระบวนการ TCPs: Thermal Coagulation Points ให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัวและเกิดการยกกระชับหน้าในเบื้องต้น

หลังจากร่างกายจะเริ่มฟื้นฟูบริเวณผิวที่อักเสบหลังทำอัลเทอราพีด้วยการส่งเซลล์เม็เลือดขาวที่ชื่อว่า แมคโครฟาจ (Macrophages) คอยสมานเนื้อเยื่อส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ ร่วมกับการสร้างไฟโบบราสต์ อีลาสติน และคอลลาเจนชุดใหม่ (Neocollegenesis) เพื่อจัดเรียงโครงสร้างผิวบริเวณนั้นให้ตึงแน่น ซึ่งกินเวลาตั้งแต่ 2 วันถึง 10 สัปดาห์หลังทำจนได้ผลลัพธ์ใบหน้าที่เรียบเนียนกระชับคล้ายเติมฟิลเลอร์ให้ฟูนุ่มเมื่อสัมผัส


ประเภทหัวของ Ultherapy


อัลเทอราพีมีหัว (Tip) สำหรับใช้ปล่อยพลังงานสู่ผิวชั้นความลึก 3 ระดับ ได้แก่ 1.5, 3.0 และ 4.5 มิลลิเมตร (mm.) ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

  • หัวแบบตื้น (DS 7 – 3.0 mm): ปล่อยคลื่นพลังงานและความถี่ 7 MHz ลงสู่ผิวลึก 3 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวโดยปราศจากอันตรายต่อผิวชั้นบนและยังช่วยปรับให้ผิวหน้าเนียนกระจ่างใส
  • หัวแบบลึก (DS 4 – 4.5 mm): ปล่อยคลื่นพลังงานและความถี่ 4 MHz ลงสู่ผิวลึกถึง 4.5 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยลดชั้นไขมันและช่วยกระชับชั้น SMAS ที่เป็นเนื้อเยื่อสำคัญของกล้ามเนื้อใบหน้าให้หดตัว ส่งผลให้ผิวใต้ตาที่ยืดหย่อนกลับมากระชับ และกรอบหน้าที่หย่อนคล้อย กระชับได้รูปอย่างเด่นชัด

 


Ultherapy

Ultherapy เหมาะสำหรับใครบ้าง?


Ultherapy SPT จัดเป็นนวัตกรรมการรักษาผิวที่ตอบโจทย์ผู้ประสบปัญหา
  • ผิวรอบกรอบหน้าหย่อนคล้อย ไม่เด่นชัด
  • มีริ้วรอยเหี่ยวย่นปรากฏชัดบริเวณอก
  • ใบหน้า ใต้คาง คอ แขน หน้าท้องและเนินอกขาดความกระชับ
  • ต้องการยกกระชับใบหน้าแต่ไม่ต้องการผ่าตัด (Surgical Facelift)
  • คิ้วหรือหนังตาตก
  • ผู้มีภาวะเหงื่ออกมากบริเวณวงแขน


ไม่เหมาะกับใครบ้าง


  • สตรีมีครรภ์
  • ผู้มีภาวะชัก
  • ผู้ที่ฝังแผ่นโลหะหรืออุปกรณ์การแพทย์ตามใบหน้าและลำคอ

Ultherapy SPT

ข้อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการรักษาระหว่าง Ultherapy SPT, Ultraformer MPT และ Thermage FLX


ด้านประสิทธิภาพการรักษา

เทคโนโลยีทั้งสามต่างสามารถส่งพลังงานลงสู่ผิวในระดับชั้นความลึกที่ต่างกัน โดยอัลเทอราพีและอัลตราฟอร์มเมอร์สามารถส่งพลังงานได้ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อส่วนพยุงใบหน้าอย่าง SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) ซึ่งส่งผลให้หน้ายกกระชับ เก็บงานกรอบหน้าให้เด่นชัด แตกต่างจากเทอร์มาจที่ส่งพลังงานได้ลึกถึงเพียงชั้นไขมัน (Subcutaneous Tissue)

ด้านระยะเวลาและการคงสภาพ

ขณะที่ Ultherapy SPT จะใช้เวลาราว 60 – 90 นาทีตามแต่บริเวณที่ใช้รักษา (หากเป็นอกส่วนบน หรือ Décolletage จะใช้เวลาราว 30 นาที) และจะคงสภาพผลลัพธ์ได้ยาวนาน 1 – 2 ปี เมื่อเทียบกับ Ultraformer MPT ที่ใช้ระยะเวลาคงสภาพเพียง 6 – 9 เดือน ทว่ากลับมีอานุภาพส่งพลังงานลึกถึง 13 มิลลิเมตร อีกทั้งยังเจ็บน้อยกว่าระหว่างทำ

 

Ultherapy SPT

Q&A ตอบคำถามชวนสงสัยเกี่ยวกับ Ultherapy


ระยะเวลารักษาและการคงสภาพของผลลัพธ์

ระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับบริเวณและอาการของแต่ละคน หากเป็นการยกกระชับผิว ลดริ้วรอยหย่อนคล้อยและปรับรูปหน้าให้เรียวเด่นจะใช้เวลาเฉลี่ยราว 60 – 90 นาที ขณะที่การยกคิ้วจะใช้เวลาเพียง 30 นาที โดยจะเห็นผลลัพธ์ได้เด่นชัดขึ้นหลังผ่านการรักษาไป 2 – 3 เดือน และจะคงสภาพหลังทำได้ 1 – 2 ปีตามแต่สภาพผิวของบุคคลนั้น

ทำ Ultherapy SPT เจ็บไหม

‘เจ็บน้อยมาก’ เป็นคำตอบที่ผู้เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทนต่อความเจ็บย่อมแตกต่างในแต่ละบุคคล ในการรักษาจึงมีทั้งผู้ที่สามารถรับการรักษาได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องทายาชา และผู้ที่ต้องทายาชาก่อนการรักษา และเนื่องจากปัจจุบัน Ultherapy ได้รับการพัฒนาฟังก์ชั่นระบบทำความเย็น เช่น Pre-coolded Ultrasound Gel, Zimmer Cooler และผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการใช้ยาหลากหลายชนิดเพื่อลดทอนอาการเจ็บ ทำให้การรักษาด้วยอัลเทอราพีสามารถปรับเปลี่ยนและควบคุมการรักษาตามความเหมาะสมของอาการได้ อย่างไรก็ตาม  แพทย์จะแนะนำให้ยาชาก่อนรักษา โดยมีเทคนิคในการทายาชาไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง เผื่อให้ยาชาทำงานในเต็มประสิทธิภาพในผิวส่วนลึก เพื่อช่วยทุเลาความเจ็บให้เบาบางลงซึ่งผู้รับบริการจะรู้สึกสบายกว่ามากๆ

ควรทำกี่ครั้งจึงดี

โดยทั่วไปครั้งเดียวก็เพียงพอสำหรับรักษาปัญหาผิวไม่ยกกระชับ อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับการรักษาบางรายอาจต้องทำอัลเทอร่ามากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพการหย่อนคล้อยของผิวที่มีว่าควรทำกี่ Line ร่วมกับกระบวนการสร้างคอลลาเจน การตอบสนองของร่างกายที่มีต่อคลื่นอัลตราซาวน์ และดุลยพินิจของแพทย์

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษาด้วย Ultherapy

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษาด้วย Ultherapy นั้นไม่ยากอย่างที่คิด เพียงเข้าพบแพทย์ผิวหนังชำนาญการเพื่อปรึกษาปัญหาก่อนจะนำไปสู่การวางแผนการรักษาที่เหมาะสมแก่บุคคล ทั้งนี้สิ่งที่ผู้เข้ารับการรักษาควรคำนึงเพิ่มเติม มีดังต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ พักผ่อนให้เพียงพอ และทำใจให้โปร่งโล่งสบาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเร็วยิ่งขึ้น
  • หากผ่านการทำเลเซอร์ ร้อยไหมหรือหัตถการอื่น เช่น การฉีด Botulinum toxin, Filler ตลอดระยะเวลา 1 – 3 เดือนที่ผ่านมา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้พิจารณาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมตามแต่บุคคล
  • กรณีที่ผู้เข้ารับการรักษาเกิดอาการผิวอักเสบ ผื่นหรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน หรือผ่านการทำหัตถการฉีดหรือผ่าตัดมาก่อน ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา

ปรกติเราใช้ Ultherapy รักษาส่วนใดบ้าง

สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกายตั้งแต่ใบหน้า คิ้ว ใต้คาง คอ เหนียง เนินอก (Décolletage) รอบดวงตา และศีรษะจรดเท้าที่มีริ้วรอย กล้ามเนื้อบาง ห้อยย้วยไม่ได้รูปให้กระชับตึงยิ่งขึ้น

ทำ Ultherapy ร่วมกับทำหัตถการฉีดตัวอื่นได้ไหม

Ultherapy สามารถรักษาควบคู่กับการรักษาหรือหัตถการฉีดอื่น เช่น Exosome, Rejuran, Botulinum toxin, Filler, Belotero Revive กับบางเคสที่แพทย์พิจารณาแล้วเพื่อให้ได้ผลดี


ภาพก่อน-หลังทำ Ultherapy


Ultherapy SPT

ผลลัพธ์เปรียบเทียบก่อน-หลังทำอัลเทอราพี 1 เดือน

 

อาการที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ Ultherapy


  • อาจพบอาการบวมแดงเล็กน้อยบริเวณที่รักษาและจะหายเป็นปรกติภายในไม่กี่ชั่วโมง
  • อาจมีการบวมหรือชา หรือเจ็บบริเวณใต้ผิว โดยเฉพาะ 1 - 3 วันแรก ก่อนค่อย ๆ ดีขึ้น และหายเองในเวลา 1 - 4 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นปัญหา ลักษณะผิวของผู้รับการรักษา และจำนวน Shot ที่ใช้ยิง
  • อาจพบรอยช้ำได้หากคลื่นพลังงานโดนเส้นเลือด ซึ่งสามารถหายได้เองในระยะเวลา 3 – 7 วัน
  • ควรพบแพทย์หลังการรักษา 3 เดือนเพื่อประเมินผลการรักษาเป็นระยะ

 

ข้อควรปฏิบัติหลังการรักษา


  • หลีกเลี่ยงแสงแดดจ้าหรือสถานที่อุณหภูมิร้อนจัด
  • ควรใช้ครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์
  • สามารถประคบเย็นหากมีอาการบวมแดงบริเวณที่รักษาหรืออื่น ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์


Medisci พร้อมมอบความงามเหนือกาลเวลาแก่คุณ


Medisci Clinic พร้อมมอบความงามอันทรงคุณค่าและยั่งยืนเหนือกาลเวลานี้ไว้แก่คุณ โดยยึดหลักการดูแลผิวให้งดงามจากภายในสู่ภายนอก ถึงต้นตอ และไร้ความเสี่ยงด้วย Ultherapy Program โปรแกรมชะลอวัยที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมากระชับเรียบเนียน แลดูอ่อนวัยอีกครั้ง ให้การรักษาโดยแพทย์หญิงอัจจิมา สุวรรณจินดา ศัลยแพทย์ผิวหนังชำนาญการด้านเลเซอร์ มะเร็งผิวหนัง และศาสตร์การแพทย์ผสมผสานมาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี ร่วมเหล่าศัลยแพทย์ผิวหนังท่านอื่นซึ่งมากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาดูแล และรักษาคุณอย่างใกล้ชิดภายใต้สถานที่สงบเงียบและเป็นส่วนตัวเสมือนบ้านของคุณ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม:

https://www.ultherapy.com
https://locator.ultherapy.com/thailand/10210

 


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้