Ultherapy กุญแจไขความงามของใบหน้า

Ultherapy

เขาเล่ากันว่า “ใบหน้าเปรียบเสมือนประตูบานแรกของหัวใจ” ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่หากใครได้พบเห็นก็รู้สึกสบายใจ แต่หากเราปล่อยให้ประตูบานแรกให้ร่วงโรยจนเสื่อมโทรมตามกาล ก็คงไม่ดีเท่าใดนัก ฟื้นความเชื่อมั่น คืนความมั่นใจแก่ใบหน้าของคุณอีกครั้งหนึ่งด้วย Ultherapy นวัตกรรม HIFU ดูแลผิวยอดนิยมซึ่งช่วยชะลอวัยคล้ายความงามเหนือกาลยังอยู่คู่กับเรา

ในบทความนี้ผู้เขียนและคุณหมออัจจิมาพร้อมพาผู้อ่านรู้จัก ‘กุญแจ’ ไขประตูแห่งความงามที่ชื่อว่า ‘อัลเทอร่า’ ว่าจะช่วยฟื้นฟูผิวของเราได้อย่างไรบ้าง ใช้เวลาทำนานแค่ไหน ทำแล้วเจ็บหรือไม่ ผลลัพธ์หลังการรักษาอยู่ได้นานเพียงใด มาหาคำตอบในบทความนี้ได้เลย

Ultherapy คืออะไร


Ultherapy คือนวัตกรรมเทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวน์ (Ultrasound therapy) สำหรับยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ก่อเกิดบาดแผลผ่านการส่งพลังงานความร้อนชนิด Focused Ultrasound ลงสู่ชั้นผิวหนังชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวส่วนช่วยพยุงใบหน้าได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้เกิดผลยกกระชับทั้งใบหน้าและบริเวณที่รักษาได้มีประสิทธิภาพในระยะเวลาอันสั้น


 

Ultherapy

หลักการทำงาน


อัลเทอร่า (Ultherapy) เป็นการบำบัดผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์โดยใช้เทคโนโลยีแบบ Inside - Out ซึ่งส่งพลังงานลงสู่ผิวชั้นด้านใน แล้วค่อยส่งผลออกมาสู่ผิวชั้นด้านนอกได้อย่างแม่นยำ (Focused Ultrasound) ผลที่ได้คือไขมันบนหน้าที่ลดลงพร้อมยกกระชับหน้าให้เข้ารูปเรียบ คล้ายการเติมฟิลเลอร์ให้ฉ่ำตึงและตึงแน่นอีกครั้ง


Ultherapy กับ HIFU แตกต่างกันอย่างไร ตกลงเป็นอย่างเดียวกันไหม


ถือเป็นอีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจ และน่าจะเป็นคำถามที่สร้างความสับสนให้กับหลายๆ คนเลยทีเดียว ว่า HIFU vs Ultherapy แตกต่างกันหรือไม่ เพราะทั้งคู่ต่างก็ใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ในการรักษาเช่นเดียวกัน หากอธิบายแบบเข้าใจง่าย Ultherapy คือเทคโนโลยี HIFU ชนิดหนึ่งสำหรับใช้รักษาผิงหน้าซึ่งต่อยอดจาก HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เดิมที่ใช้รักษาในวงการแพทย์ทั่วไป เช่น เนื้องอก มะเร็ง ก่อนจะนำไปประยุกต์เข้ากับการคงสภาพความงามหรือที่เรียกว่า ‘Anti-Aging’ ในปัจจุบัน


 

Ultherapy

ภาพเปรียบเทียบประสิทธิภาพของอัลเทอร่าเมื่อเทียบกับ Thermage FLX และ Ultraformer MPT


Ultherapy, Ultraformer MPT และ Thermage flx แตกต่างกันอย่างไร


แม้ว่า Ultherapy และ Ultraformer MPT ใช้หลักการรักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงยิงลงสู่ชั้นผิวหนัง ทว่ากรณีของ Ultherapy จะอิงอาศัยเทคโนโลยี HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) สำหรับคงสภาพผลลัพธ์ให้ยาวนานกว่า 1 ปีเมื่อเทียบกับ Ultraformer MPT ใช้เวลาคงสภาพเพียง 6 - 9 เดือน

ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ Ultherapy ตอบโจทย์ผู้เข้ารับการรักษาที่ต้องการปรับกรอบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบด้านประสิทธิภาพร่วมกับ Thermage FLX ซึ่งใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุขั้วเดี่ยว (Monopolar RF) ด้วยจะทำให้เราเห็นความเด่นชัดระหว่างนวัตกรรมได้ดียิ่งขึ้น  

ประเภทหัวของอัลเทอร่า


  • หัวแบบลึก (DS 4–4.5 mm): ปล่อยคลื่นพลังงานและความถี่ 4 MHz ลงสู่ผิวลึกถึง 4.5 มม. ซึ่งช่วยลดชั้นไขมันและความหนาของใบหน้าให้เข้ารูป ทั้งยังช่วยผิวชั้นสแมส (SMAS) ให้หดตัวกระชับ ส่งผลให้หนังใต้ตาลดเลือนและขอบหน้าชัดเจน
  • หัวแบบตื้น (DS 7-3.0 mm): ปล่อยคลื่นพลังงานและความถี่ 7 MHz ลงสู่ผิวลึก 3 มม. ซึ่งช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวโดยปราศจากอันตรายต่อผิวชั้นบนและยังช่วยปรับให้ผิวหน้าเนียนสวยผิวใส

Ultherapy

Ultherapy เหมาะสำหรับใครบ้าง?


  • ผู้มีหน้าใบหน้า ใต้คาง คอ แขน หน้าท้องและเนินอกที่คล้อยไม่กระชับ กรอบรูปหน้าไม่ชัด
  • ผู้มีคิ้วหรือหนังตาตก
  • ผู้มีภาวะเหงื่อออกมากที่รักแร้

 

Ultherapy ใช้เวลาในการรักษานานแค่ไหน?


ระยะเวลารักษาขึ้นอยู่บริเวณและอาการของแต่ละคน กรณีการยกกระชับผิว ลดริ้วรอยหย่อนคล้อย หรือปรับรูปหน้าให้เรียวเด่นจะใช้เวลาราว 60 - 90 นาทีโดยประมาณ ขณะที่การยกคิ้วจะใช้เวลาเพียง 30 นาที

 

การทำ Ultherapy เจ็บไหม


เนื่องจาก Ultherapy เป็นการรักษาด้วยการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ปล่อยลงสู่ชั้นใต้ผิวจนเกิดพลังงานความร้อนเข้มข้นสูง จึงอาจส่งผลให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกเจ็บร้อนเบา ๆ ดังนั้นการทายาชาก่อนเข้ารับการรักษาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงจะช่วยทุเลาความเจ็บให้เบาบางลง


ผู้ที่ไม่เหมาะสมกับอัลเทอร่า


  • ผู้ที่ได้รับการฝังแผ่นโลหะหรืออุปกรณ์การแพทย์บริเวณใบหน้าและลำคอ
  • สตรีตั้งครรภ์
  • ภาวะชัก

 

Ultherapy

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา


ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก นอกจากการเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายร่วมกับปัจจัยอื่นซึ่งต้องรับการดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น มีโรคประจำตัว ผ่านการผ่าตัดและทำหัตถการต่าง ๆ บนผิวหน้ามาก่อน ก่อนเข้ารับการรักษา


อาการที่เกิดขึ้นหลังทำ Ultherapy


  • ไม่มีรอยแผลเป็น อาจพบอาการบวมแดงเล็กน้อยบริเวณที่ทำการรักษา และหายเป็นปกติใน 1 - 2 วัน
  • อาจเกิดอาการปวดขณะทำ ควรทายาชาก่อนรักษา 1 - 2 ชั่วโมง
  • อาจพบห้อเลือดหากคลื่นพลังงานโดนเส้นเลือด ซึ่งอาการจะดีใน 3 - 7 วันหลังรักษา
  • หากพลังงานโดนเส้นประสาท อาจส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและชาชั่วคราว
  • อาจเกิดแผลหากยิงด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง
  • ผลการรักษาจะเห็นชัดขึ้นใน 3 เดือนโดยประมาณ ซึ่งการรักษาต่อครั้งจะอยู่ได้นานราว 1 - 2 ปี
  • ผู้ป่วยควรพบแพทย์หลังการรักษา 3 เดือนเพื่อประเมินผลเป็นระยะ
  • กรณีผู้เป็นโรคเบาหวาน ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา

 

ข้อปฏิบัติหลังเข้ารับการรักษา


หลังเข้ารับการรักษา สามารถใช้ชีวิต หรือแต่งหน้าตามปกติได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจ้า หรือสถานที่มีอุณหภูมิที่ร้อนจัด และควรทาครีมบำรุงผิว หรือครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกจากบ้านอย่างสม่ำเสมอ เป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์  นอกจากนี้ หากมีคำแนะนำเพิ่มเติมจากแพทย์ก็ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากมีอาการบวมสามารถประคบเย็นได้

 

รีวิว Before & After หลังทำ Ultherapy 1 เดือน



Ultherapy

*ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละเฉพาะบุคคล


Medisci พร้อมมอบความงามเหนือกาลเวลาแก่คุณ


Medisci Clinic พร้อมมอบความงามอันทรงคุณค่าและยั่งยืนเหนือกาลเวลานี้ไว้แก่คุณ โดยยึดหลักการดูแลผิวให้งดงามจากภายในสู่ภายนอก ถึงต้นตอ และไร้ความเสี่ยงด้วย Ultherapy Program โปรแกรมชะลอวัยที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมากระชับเรียบเนียน แลดูอ่อนวัยอีกครั้ง ให้การรักษาโดยแพทย์หญิงอัจจิมา สุวรรณจินดา ศัลยแพทย์ผิวหนังชำนาญการด้านเลเซอร์ มะเร็งผิวหนัง และศาสตร์การแพทย์ผสมผสานมาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี ร่วมเหล่าศัลยแพทย์ผิวหนังท่านอื่นซึ่งมากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาดูแล และรักษาคุณอย่างใกล้ชิดภายใต้สถานที่สงบเงียบและเป็นส่วนตัวเสมือนบ้านของคุณ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม:

https://www.ultherapy.com
https://locator.ultherapy.com/thailand/10210

 


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้