เขาเล่ากันว่า “ใบหน้าเปรียบเสมือนประตูบานแรกของหัวใจ” ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่หากใครได้พบเห็นก็รู้สึกสบายใจ แต่หากเราปล่อยให้ประตูบานแรกให้ร่วงโรยจนเสื่อมโทรมตามกาล ก็คงไม่ดีเท่าใดนัก ฟื้นความเชื่อมั่น คืนความมั่นใจแก่ใบหน้าของคุณอีกครั้งหนึ่งด้วย Ultherapy นวัตกรรม HIFU ดูแลผิวยอดนิยมซึ่งช่วยชะลอวัยคล้ายความงามเหนือกาลยังอยู่คู่กับเรา
ในบทความนี้ผู้เขียนและคุณหมออัจจิมาพร้อมพาผู้อ่านรู้จัก ‘กุญแจ’ ไขประตูแห่งความงามที่ชื่อว่า ‘อัลเทอร่า’ ว่าจะช่วยฟื้นฟูผิวของเราได้อย่างไรบ้าง ใช้เวลาทำนานแค่ไหน ทำแล้วเจ็บหรือไม่ ผลลัพธ์หลังการรักษาอยู่ได้นานเพียงใด มาหาคำตอบในบทความนี้ได้เลย
Ultherapy คือนวัตกรรมเทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวน์ (Ultrasound therapy) สำหรับยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ก่อเกิดบาดแผลผ่านการส่งพลังงานความร้อนชนิด Focused Ultrasound ลงสู่ชั้นผิวหนังชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวส่วนช่วยพยุงใบหน้าได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้เกิดผลยกกระชับทั้งใบหน้าและบริเวณที่รักษาได้มีประสิทธิภาพในระยะเวลาอันสั้น
อัลเทอร่า (Ultherapy) เป็นการบำบัดผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์โดยใช้เทคโนโลยีแบบ Inside - Out ซึ่งส่งพลังงานลงสู่ผิวชั้นด้านใน แล้วค่อยส่งผลออกมาสู่ผิวชั้นด้านนอกได้อย่างแม่นยำ (Focused Ultrasound) ผลที่ได้คือไขมันบนหน้าที่ลดลงพร้อมยกกระชับหน้าให้เข้ารูปเรียบ คล้ายการเติมฟิลเลอร์ให้ฉ่ำตึงและตึงแน่นอีกครั้ง
ถือเป็นอีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจ และน่าจะเป็นคำถามที่สร้างความสับสนให้กับหลายๆ คนเลยทีเดียว ว่า HIFU vs Ultherapy แตกต่างกันหรือไม่ เพราะทั้งคู่ต่างก็ใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ในการรักษาเช่นเดียวกัน หากอธิบายแบบเข้าใจง่าย Ultherapy คือเทคโนโลยี HIFU ชนิดหนึ่งสำหรับใช้รักษาผิงหน้าซึ่งต่อยอดจาก HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เดิมที่ใช้รักษาในวงการแพทย์ทั่วไป เช่น เนื้องอก มะเร็ง ก่อนจะนำไปประยุกต์เข้ากับการคงสภาพความงามหรือที่เรียกว่า ‘Anti-Aging’ ในปัจจุบัน
ภาพเปรียบเทียบประสิทธิภาพของอัลเทอร่าเมื่อเทียบกับ Thermage FLX และ Ultraformer MPT
แม้ว่า Ultherapy และ Ultraformer MPT ใช้หลักการรักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงยิงลงสู่ชั้นผิวหนัง ทว่ากรณีของ Ultherapy จะอิงอาศัยเทคโนโลยี HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) สำหรับคงสภาพผลลัพธ์ให้ยาวนานกว่า 1 ปีเมื่อเทียบกับ Ultraformer MPT ใช้เวลาคงสภาพเพียง 6 - 9 เดือน
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ Ultherapy ตอบโจทย์ผู้เข้ารับการรักษาที่ต้องการปรับกรอบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบด้านประสิทธิภาพร่วมกับ Thermage FLX ซึ่งใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุขั้วเดี่ยว (Monopolar RF) ด้วยจะทำให้เราเห็นความเด่นชัดระหว่างนวัตกรรมได้ดียิ่งขึ้น
ระยะเวลารักษาขึ้นอยู่บริเวณและอาการของแต่ละคน กรณีการยกกระชับผิว ลดริ้วรอยหย่อนคล้อย หรือปรับรูปหน้าให้เรียวเด่นจะใช้เวลาราว 60 - 90 นาทีโดยประมาณ ขณะที่การยกคิ้วจะใช้เวลาเพียง 30 นาที
เนื่องจาก Ultherapy เป็นการรักษาด้วยการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ปล่อยลงสู่ชั้นใต้ผิวจนเกิดพลังงานความร้อนเข้มข้นสูง จึงอาจส่งผลให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกเจ็บร้อนเบา ๆ ดังนั้นการทายาชาก่อนเข้ารับการรักษาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงจะช่วยทุเลาความเจ็บให้เบาบางลง
ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก นอกจากการเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายร่วมกับปัจจัยอื่นซึ่งต้องรับการดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น มีโรคประจำตัว ผ่านการผ่าตัดและทำหัตถการต่าง ๆ บนผิวหน้ามาก่อน ก่อนเข้ารับการรักษา
หลังเข้ารับการรักษา สามารถใช้ชีวิต หรือแต่งหน้าตามปกติได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจ้า หรือสถานที่มีอุณหภูมิที่ร้อนจัด และควรทาครีมบำรุงผิว หรือครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกจากบ้านอย่างสม่ำเสมอ เป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ นอกจากนี้ หากมีคำแนะนำเพิ่มเติมจากแพทย์ก็ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากมีอาการบวมสามารถประคบเย็นได้
*ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละเฉพาะบุคคล
Medisci Clinic พร้อมมอบความงามอันทรงคุณค่าและยั่งยืนเหนือกาลเวลานี้ไว้แก่คุณ โดยยึดหลักการดูแลผิวให้งดงามจากภายในสู่ภายนอก ถึงต้นตอ และไร้ความเสี่ยงด้วย Ultherapy Program โปรแกรมชะลอวัยที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมากระชับเรียบเนียน แลดูอ่อนวัยอีกครั้ง ให้การรักษาโดยแพทย์หญิงอัจจิมา สุวรรณจินดา ศัลยแพทย์ผิวหนังชำนาญการด้านเลเซอร์ มะเร็งผิวหนัง และศาสตร์การแพทย์ผสมผสานมาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี ร่วมเหล่าศัลยแพทย์ผิวหนังท่านอื่นซึ่งมากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาดูแล และรักษาคุณอย่างใกล้ชิดภายใต้สถานที่สงบเงียบและเป็นส่วนตัวเสมือนบ้านของคุณ
https://www.ultherapy.com
https://locator.ultherapy.com/thailand/10210