โรคอัลไซเมอร์ เป็นโรคในกลุ่มของภาวะสมองเสื่อมที่พบได้บ่อยที่สุด เป็นโรคที่ส่งผลต่อความจำ การเรียนรู้ ความรู้สึกนึกคิด และรวมไปถึงการแสดงออกทางพฤติกรรมของผู้ป่วย หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจว่า ความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ที่สำคัญที่สุดมาจากพันธุกรรม แต่พบว่าจริง ๆ แล้ว มีผู้ป่วยอัลไซเมอร์เพียง 5% จากผู้ป่วยทั้งหมดเท่านั้น ดังนั้นความเสี่ยงของการเกิด "โรคอัลไซเมอร์" จะมาจากสิ่งแวดล้อม และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งวันนี้ได้รวบรวม 5 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ ดังนี้
มีการศึกษาพบว่าการกินน้ำตาล ของหวาน รวมไปถึงอาหารจำพวกแป้งขัดขาวบ่อย ๆ จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอินซูลินมาก ทำให้ไปกระตุ้นการสะสมโปรตีนตัวหนึ่งในสมอง ที่ชื่อว่า "เบตา อะมีลอยด์" นำไปสู่การเกิดโรคอัลไซเมอร์ในที่สุด ในคนที่พบว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดสูง หรือเป็นโรคเบาหวาน ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์
โดยเฉพาะกลุ่มสารปรอท สารตะกั่ว แคดเมียม และอะลูมิเนียม ซึ่งในปัจจุบัน เรามักพบสารเหล่านี้ปนเปื้อนมาในน้ำดื่ม เครื่องสำอาง วัสดุอุดฟัน ยาฆ่าแมลง ยากำจัดศัตรูพืช มลพิษทางอากาศ รวมไปถึงควันบุหรี่ด้วย
โดยเฉพาะ วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และกรดโฟลิก การขาดสารอาหารทั้ง 3 ตัวนี้ จะทำให้ "โฮโมซีสเตอีน (Homocysteine)" ขึ้นสูง ซึ่งเจ้าฮอร์โมนนี้เป็นพิษต่อเซลล์ในสมอง และทำให้เกิดการอักเสบในหลอดเลือด ซึ่งนอกจากจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเเล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย
ในผู้ที่มีประวัติการบาดเจ็บที่ศีรษะ ประสบอุบัติเหตุ การผ่าตัดสมอง หรือการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง การเล่นกีฬาที่อาจทำให้เกิดการกระทบที่ศีรษะบ่อย ๆ เช่น การเล่นกีฬา การชกมวย การเล่นฟุตบอล หรือกีฬาผาดโผน การบาดเจ็บที่ศีรษะเหล่านี้ จะส่งผลให้สมองเกิดความเสียหาย เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์ตามมา
มีการศึกษาพบว่าในผู้สูงอายุที่ขาดการออกกำลังกาย ใช้ชีวิตประจำวันแบบนั่ง ๆ นอน ๆ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ในทางกลับกัน การออกกำลังกายเป็นประจำก็เป็นตัวที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้เช่นเดียวกันค่ะ