วิธีดูแลหลังการรักษาด้วย "เลเซอร์กลุ่มไม่มีแผล"
1.) Yag Reju ปรับสภาพผิว ลดริ้วรอย กระชับผิว รูขุมขน
เป็นโปรแกรมปรับสภาพผิว ให้เนียนขาว ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1064 นาโนเมตร ซึ่งมีความยาวคลื่นสูง ทำให้ลำแสงสามารถผ่านผิวหนังชั้นบน ไปยังชั้นใต้ผิวหนังได้ดี จึงทำให้ไม่เกิดรอยแผล หรือรอยด่างดำหลังการรักษา อีกทั้งมีระบบให้ความเย็น DCD (Dynamic Cooling Device) ซึ่งเป็นระบบความเย็น เพื่อปกป้องผิวชั้นบนก่อนการยิงเลเซอร์อย่างนุ่มนวล จึงไม่ทำให้เกิดรอยแดงด่างดำหลังการทำเลเซอร์
การเตรียมตัวก่อนรักษา และการดูแลรักษาหลังเลเซอร์
• ก่อนการรักษาให้ทำความสะอาดใบหน้า หรือบริเวณที่จะทำการรักษา แล้วเช็ดบริเวณนั้นให้แห้งเพื่อให้เลเซอร์ซึมเข้าผิวหนังได้ดีที่สุด
• หลังทำ Yag Reju จะไม่เกิดบาดแผลและไม่มีแผลเป็น แต่อาจมีรอยแดงหรือสีคล้ำขึ้นเล็กน้อย ควรทาน้ำมันลดการระคายเคือง MB Ointment หรือทายาลดการระคายเคือง DPT อย่างน้อย 3 วัน ก่อนนอน
• อาจมีอาการแดงหรือบวมเล็กน้อยบ้างเป็นเรื่องปกติ ให้ใช้ Cool pack ประคบ ประมาณ 10-15 นาที หรือจนหายแดงหรือบวม แต่คนไข้จะรู้สึกหน้าตึง จากรูขุมขนที่กระชับขึ้น บางรายอาจเกิดเป็นผื่น คล้ายลมพิษและหายได้เอง ภายใน 24 ชม. โดยเฉพาะในคนไข้ที่มีประวัติภูมิแพ้ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ โดยจะเกิดกับบุคคลที่ร่างกายมีระบบภูมิต้านทานผิดปกติ แก้ไขโดยรับประทานยาแก้แพ้ ในรายที่เป็นนานกว่า 24 ชม. ให้ทายาลดระคายเคือง DPT ก่อนนอน เป็นเวลา 3 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติดี
• สามารถล้างหน้าด้วยสบู่ได้ตามปกติ และสามารถทาครีมบำรุงผิวหรือแต่งหน้าได้ตามปกติ โดยเลือกใช้ครีมบำรุงผิวและผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่แพทย์สั่งจ่าย ซึ่งจะไม่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิว
• ควรรับประทานผัก ผลไม้สด และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพผิว
• หลีกเลี่ยงการขัดหรือเช็ดหน้าแรงๆ ของร้อน อาหารรสจัด แอลกอฮอล์ อากาศร้อน การอบซาวน์น่าการออกกำลังกายอย่างหนัก การสัมผัสแสงแดด เพราะทำให้เกิดภาวะหน้าแดง หรือมีสีผิวคล้ำขึ้นได้
• หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือเครื่องสำอาง ที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิว เช่น แอลกอฮอล์ กรดผลไม้ กรด BHA กรดซาลิไซลิก กรดวิตามินเอ โทนเนอร์ astringent และเครื่องสำอางที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิวอื่นๆ กรณีเกิดการระคายเคือง ให้รีบล้างออกทันที แล้วจึงไปพบแพทย์ เพราะอาจทำให้เกิดแผลแดง นานกว่าปกติและเกิดอาการผิวคล้ำขึ้นได้
• หลังทำ YAG REJU ควรทำทรีตเม้นต์บำรุงผิวหน้าควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและลดอาการบวมแดง
• หลีกเลี่ยงแสงแดด และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เป็นประจำทุกวัน เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด ลดการเกิดรอยด่างดำ และแผลเป็น โดยควรเลือกครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติกันแดดที่คงตัว มีส่วนผสมของ Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide ที่มีฤทธิ์ช่วยให้กันแดดได้นานขึ้น
• อาจรับประทานยาหรืออาหารเสริม ตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการไวต่อแสงแดด และลดการสร้างเม็ดสี ลดรอยดำของผิว และควรมาพบแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
2.) VPL ( Variable Pulse Light ) ปรับสภาพผิวด้วยแสงเข้มข้น
VPL เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ผลิตในยุโรป ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) และได้รับการรับรองมาตรฐานสากลระดับโลก จึงปลอดภัยและให้ประสิทธิภาพสูง ช่วยปรับสภาพผิว ด้วยนวัตกรรมของพลังงานแสงเข้มข้นสูง ช่วความยาวคลื่น 515-1,200 นาโนเมตร ซึ่งครอบคลุมความยาวคลื่นของเลเซอร์ 4 ชนิด ด้วยกัน จึงใช้รักษาปัญหาผิวได้ค่อนข้างหลากหลายภายในครั้งเดียว พลังงานแสงจะส่งผ่านผิวชั้นบน ลงสู่ผิวชั้นล่างเส้นเลือดฝอยจะดูดซับพลังงานแสง ทำให้เกิดความร้อนที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน โดยไม่ทำอันตรายผิวชั้นบน ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน ริ้วรอยลดลง และหากมีเม็ดสีบนผิวหนังในบริมาณมาก เม็ดสีจะดูดซับพลังงานแสง ทำให้เม็ดสีถูกทำลาย ส่งผลให้รอยด่งดำ รอยแดง จางลง ผิวขาวใส ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
การเตรียมตัวก่อนรักษา และการดูแลรักษาหลังเลเซอร์
• หลังทำ VPL จะไม่เกิดบาดแผลและไม่มีแผลเป็นแต่อาจมีรอยแดงหรือสีคล้ำขึ้นเล็กน้อย ซึ่งจะหายได้เองภายใน 3-7 วัน บางกรณีที่มีปัญหาเม็ดสี อาจมีสะเก็ดเล็กๆ เกิดขึ้นได้ ให้ทาน้ำมันเพื่อลดการระคายเคือง MB Ointment หรือทายาลดการระคายเคือง DPT อย่างน้อย 3 วัน ก่อนนอน จะช่วยให้สะเก็ดหลุดเร็วขึ้น และไม่ควรแกะสะเก็ดหรือรบกวนผิวด้วยวิธีอื่นๆ
• หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือเครื่องสำอาง ที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิว เช่น แอลกอฮอล์ กรดผลไม้ กรด BHA กรดซาลิไซลิก กรดวิตามินเอ โทนเนอร์ astringent และเครื่องสำอางที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิวอื่นๆ กรณีเกิดการระคายเคือง ให้รีบล้างออกทันที แล้วจึงไปพบแพทย์ เพราะอาจทำให้เกิดแผลแดงนานกว่าปกติ และเกิดอาการผิวคล้ำขึ้นได้
• สามารถล้างหน้าด้วยสบู่ ทาครีมบำรุงผิว หรือแต่งหน้าได้ตามปกติ
• หลีกเลียงแสงแดดจัดและทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อคงประสิทธิภาพให้ผิวขาวใสไร้ริ้วรอยยาวนานขึ้น นอกจากนี้อาจจะรับประทานยาหรืออาหารเสริมตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการไวต่อแสงแดด และลดการสร้างเม็ดสีเพื่อลดรอยดำของผิว
• ควรพบแพทย์หลังรับการรักษา 1 สัปดาห์เพื่อติดตามผลการรักษา และควรพบแพทย์อย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์เพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้น
3.) Gentle Lase & Gentle Yag กำจัดขนถาวรและขนคุด
การกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพสูง โดยใช้แสงเลเซอร์ที่มีความจำเพาะในการทำลายรากขนสูง หลังการรักษาขนจะไม่ขึ้นมาใหม่ หรือขึ้นในปริมาณที่น้อยลงมาก หรือขนมีขนาดเล็กลงมาก บริเวณที่นิยมกำจัดขนถาวร ได้แก่ หนวด เครา ขนรักแร้ ขนหน้าอก ขนหน้าแข้ง ขนบริเวณแขนและบิกินี่ การกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ต้องทำซ้ำหลายครั้ง ขึ้นอยู่กับลักษณะและความหนาแน่นของเส้นขนบริเวณที่ทำการรักษา เลเซอร์ที่ได้มาตรฐานในการกำจัดขนถาวรที่มีประสิทธิภาพสูง ได้แก่
Gentle Lase ใช้เลเซอร์ช่วงกว้างความยาวคลื่นในช่วง 755 นาโนเมตร โดยแสงเลเซอร์มีความยาวคลื่นที่จำเพาะในการทำลายรากขน ถือเป็นเทคโนโลยีในการกำจัดขนถาวรอีกประเภทหนึ่งที่ให้ผลดี
Gentle Yag ใช้เลเซอร์ช่วงกว้างความยาวคลื่นในช่วง 1064 นาโนเมตร ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับคนเอเชีย หรือคนที่มีสีผิวคล้ำ แสงเลเซอร์มีความยาวคลื่นจำเพาะ สามารถผ่านผิวชั้นบนลงสู่รากขนที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวหนังได้ โดยทำให้เซลล์เม็ดสีถูกกระทบกระเทือนน้อยที่สุด และไม่ทำลายผิวหนังบริเวณข้างเคียงระหว่างการยิงเลเซอร์ จึงมีโอกาสเกิดแผลเป็นน้อยมาก ทั้งยังลดการเกิดกลิ่นตัวและทำให้ผิวใต้วงแขนเรียบเนียนขึ้น
Gentle Lase และ Gentle Yag เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ผลิตจาก ประเทศ สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) และได้รับการรับรองมาตรฐานสากลระดับโลก จึงมีความปลอดภัยสูงและให้ประสิทธิภาพสูง
การเตรียมตัวก่อนรักษา และการดูแลรักษาหลังเลเซอร์
• ก่อนการรักษาควรหยุดกำจัดขนด้วยวิธีอื่น เช่น ถอนขนแวกซ์ขน ก่อนมาทำการรักษาประมาณ 4 สัปดาห์
• ก่อนการยิงเลเซอร์ เจ้าหน้าที่จะโกนขนบริเวณที่จะทำการรักษาให้เหลือตอประมาณ 1-2 ม.ม. และเช็ดบริเวณที่รักษาให้แห้งและสะอาดแล้วจึงยิงเลเซอร์โดยให้ Distance Gauge ตั้งฉากและยิงติดผิวในขณะทำเลเซอร์
• หลังทำการกำจัดขนถาวร อาจจะมีอาการแดง หรือบวมเล็กน้อยบ้างเป็นปกติ โดยเฉพาะบริเวณรูขุมขน ซึ่งจะหายได้เองภายใน 1/2-3 ชม. ให้ใช้ Cold Pack หรือใช้น้ำแข็งประคบ ประมาณ 10-15 นาที หรือจนหายแดง กรณีเกิดอาการบวม ควรทายาลดการระคายเคือง DPT อย่างน้อย 3-7 วัน ก่อนนอน หรือจนกว่าจะหาย
• สามารถอาบน้ำหรือล้างหน้าได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว หรือแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง และงดการใช้ฟองน้ำหรือหินขัดผิว
• งดการใช้ลูกกลิ้ง เครื่องสำอาง หรือน้ำหอม บริเวณที่กำจัดขนประมาณ 1 สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
• หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในสระน้ำหรือทะเล ในช่วง 1 สัปดาห์หลังการรักษา เพื่อป้องกันการอักเสบ
• ไม่จำเป็นต้องหยุดพักงานรักษาตัว สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ ไม่ต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ ควรรับการรักษาซ้ำ หลังจากการกำจัดขนครั้งแรกประมาณ 1 เดือน (ขึ้นอยู่กับบริเวณที่กำจัดขน)
**หมายเหตุ ในรายที่มีสีผิวคล้ำหรือเข้มมาก หรือกรณีที่มีผิวสีแทนจากการตากแดด อาจมีการเปลี่ยนแปลงของสีผิวให้ไม่สม่ำเสมอ ได้แต่จะหายได้เองตามเวลา ควรพบแพทย์เพื่อรับยาลบรอยดำ ซึ่งจะช่วยให้หายเร็วขึ้น
4.) V-Beam Laser ลบรอยแดงจากสิว ปานแดง เส้นเลือดฝอยบนใบหน้า
เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) และได้รับการรับรองมาตรฐานสากลระดับโลก จึงมีความปลอดภัยและให้ประสิทธิภาพสูง มีคุณสมบัติในการรักษารอยแดง ทำลายหลอดเลือดในบริเวณที่ต้องการรักษา โดยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง ด้วยระบบการป้องกันผิวหนังชั้นบน (DCD) และระบบการให้พลังงานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ทำให้การทำเลเซอร์นั้นสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยตอบสนองได้ดีกับเส้นเลือดแดงและหลอด เลือดเส้นขนาดเล็ก เหมาะกับการรักษาแผลเป็น รอยแดงจากสิว ปานแดง เนื้องอก หลอดเลือด ฝ้าเลือด เส้นเลือดฝอย โรคหน้าแดงโรเซเซีย และคีลอยด์ โดยเห็นผลการรักษาได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการรักษา
การเตรียมตัวก่อนรักษา และการดูแลรักษาหลังเลเซอร์
• หลังทำ V-Beam จะไม่เกิดบาดแผลและไม่มีแผลเป็น แต่อาจมีผื่นนูน ลมพิษ ในคนไข้ที่มีประวัติภูมิแพ้ ซึ่งเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ และหายได้เองภายใน 24 ชม. โดยจะเกิดกับบุคคลที่มีร่างกายมีระบบภูมิต้านทานผิดปกติ แก้ไขโดยรับประทานยาแก้แพ้ ในรายที่เป็นนานกว่า 24 ชม. ให้ทายาลดการระคายเคือง DPT ก่อนนอน เป็นเวลา 3 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ
• รับประทานยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่ง
• หลีกเลี่ยงการใช้ยา เครื่องสำอาง ที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิว เช่น แอลกอฮอล์ กรดผลไม้ กรด BHA กรดซาลิไซลิก กรดวิตามินเอ โทนเนอร์ astringent และ เครื่องสำอางที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิวอื่นๆ กรณีเกิดการระคายเคือง ให้รีบล้างออกทันที แล้วจึงไปพบแพทย์ เพราะอาจทำให้เกิดแผลแดงนานกว่าปกติ และเกิดอาการผิวคล้ำขึ้นได้
• สามารถล้างหน้าด้วยสบู่ ทาครีมบำรุงผิว หรือแต่งหน้าได้ตามปกติ
• หลังรักษาด้วย V-Beam ควรทำทรีตเม้นต์บำรุงผิวหน้าควบคู่ไปด้วยซึ่งเป็นการเสริมการรักษาของเลเซอร์ เพื่อลดรอยสิว รอยแดง ให้หายเร็วขึ้น
• หลีกเลียงแสงแดดจัดและทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อคงประสิทธิภาพให้ผิวขาวใสไร้ริ้วรอยยาวนานขึ้น นอกจากนี้อาจจะรับประทานยาหรืออาหารเสริมตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการไวต่อแสงแดด และลดการสร้างเม็ดสีเพื่อลดรอยดำของผิว
• ควรพบแพทย์หลังรับการรักษา 1 สัปดาห์เพื่อติดตามผลการรักษา และควรพบแพทย์อย่างต่อเนื่องทุก 2-4 สัปดาห์ เพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้น
5.) Yag-D Color Laser ขจัดเม็ดสี ฝ้าลึก
เป็นนวัตกรรมการขจัดเม็ดสี ฝ้าลึก ด้วยแสงเลเซอร์ช่วงสั้น ที่มีความยาวคลื่น 1064 นาโนเมตร โดยพลังงานจากแสงเลเซอร์จะไปสลายเม็ดสีที่เกาะกันเป็นกลุ่มก้อนให้แตกกระจายและถูกกำจัดออกโดยกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกาย โดยไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง สามารถรักษาฝ้าลึกเรื้อรังฝ้าที่ดื้อต่อการรักษาด้วยวิธีอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้เกิดรอยดำ ไม่เกิดการอักเสบหรือมีแผลหลังการรักษา จึงไม่ต้องดูแลยุ่งยาก Yag D Color เป็นเครื่องเลเซอร์ ที่ผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) และได้รับการรับรองมาตรฐานสากลระดับโลก จึงมีความปลอดภัยและให้ประสิทธิภาพสูง
การเตรียมตัวก่อนรักษา และการดูแลรักษาหลังเลเซอร์
• หลังทำ Yag D Color Laser จะไม่เกิดบาดแผลและไม่มีแผลเป็น แต่อาจมีรอยแดงหรือสีคล้ำขึ้นเล็กน้อย ซึ่งจะหายได้เองภายใน 3-7 วัน
• หลังทำ Yag D Color Laser ควรทำทรีตเม้นต์บำรุงผิวหน้าควบคู่ไปด้วย เพื่อเสริมการรักษาของเลเซอร์ ช่วยในการรักษาฝ้าและทำให้เม็ดสีจางลง
• สามารถล้างหน้าด้วยสบู่ได้ตามปกติ หลีกเลี่ยงการขัด ถู หรือเช็ดหน้าแรงๆ
• สามารถทาครีมบำรุงผิว หรือแต่งหน้าได้ตามปกติ
• หลีกเลี่ยงการใช้ยา เครื่องสำอาง ที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิว เช่น แอลกอฮอล์ กรดผลไม้ กรด BHA กรดซาลิไซลิก กรดวิตามินเอ โทนเนอร์ astringent และ เครื่องสำอางที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิวอื่นๆ กรณีเกิดการระคายเคือง ให้รีบล้างออกทันที แล้วจึงไปพบแพทย์ เพราะอาจทำให้เกิดแผลแดงนานกว่าปกติ และเกิดอาการผิวคล้ำขึ้นได้
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด ของร้อน แอลกอฮอล์ อาหารรสจัด การเซาว์น่า อากาศร้อน การอยู่ในที่อบอ้าว การขับรถในช่วงเวลากลางวัน การออกกำลังกายหนักๆ เพราะทำให้เกิดภาวะหน้าแดง และกระตุ้นให้สีผิวคล้ำได้
• ควรรับประทานผักและผลไม้สดและดิ่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพผิว
• หลีกเลียงแสงแดดจัดและทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเพื่อคงประสิทธิภาพให้ผิวขาวใสไร้ริ้วรอยยาวนานขึ้น นอกจากนี้อาจจะรับประทานยาหรืออาหารเสริมตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการไวต่อแสงแดด และลดการสร้างเม็ดสีเพื่อลดรอยดำของผิว
• อาจรับประทานยาหรืออาหารเสริม ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการไวต่อแสงแดด และลดการสร้างเม็ดสี ลดรอยดำของผิว และควรมาพบแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
6.) Alex Laser รักษาฝ้า กระชับรูขุมขน กำจัดขนบนใบหน้า
Alex Laser มีความยาวคลื่น 755 นาโนเมตร เป็นเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษาปัญหาของเม็ดสีต่างๆ และการกำจัดขนถาวรในคนไข้ที่มีสีผิวค่อนข้างขาว พร้อมระบบให้ความเย็น DCD (Dynamic Cooling Divice) ซึ่งเป็นระบบความเย็น เพื่อปกป้องผิวชั้นบนก่อนยิงเลเซอร์ทุกนัด ทำให้ผิวหลังการยิงเลเซอร์ได้รับการปกป้องอย่างนุ่มนวล ไม่เกิดรอยแดง ด่างดำ หลังการทำเลเซอร์ ผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) และยังได้รับมาตรฐานระดับสากลของโลกว่ามีความปลอดภัยสูง และให้ประสิทธิภาพสูงในการรักษา สามารถปรับสภาพผิวให้เนียนขาว (Rejuvenation) ช่วยรักษากลุ่มเม็ดสีที่ผิดปกติ ได้แก่ ขี้แมงวัน กระแดด กระ ฝ้า ขนคุด รอยดำ สิวเสี้ยน รูขุมขนกว้าง กำจัดขนบนหน้า และกำจัดขนถาวรได้ผลดี
การเตรียมตัวก่อนรักษา และการดูแลรักษาหลังเลเซอร์
• ก่อนการรักษาให้ทำความสะอาดใบหน้า หรือบริเวณที่จะทำการรักษา แล้วเช็ดบริเวณนั้นให้แห้ง เพื่อให้เลเซอร์ ซึมเข้าผิวหนังได้ดีที่สุด
• หลังทำจะไม่เกิดบาดแผลและไม่มีแผลเป็น แต่อาจมีรอยแดงหรือสีคล้ำขึ้นเล็กน้อย ในบางราย อาจจะมีสะเก็ดบางๆเกิดขึ้น ประมาณ 3-7 วัน สะเก็ดจะค่อยๆลอกหลุด อาจทาน้ำมันเพื่อลดระคายเคือง MB Ointment เพื่อช่วยให้หลุดเร็วขึ้นหรือค่อยๆลอกหลุดออกเอง สีผิวจะค่อยๆจางลงกลืนไปกับผิวตามลำดับ โดยไม่ทำให้เกิดรอยด่าง *ห้ามแกะสะเก็ดออกเองโดยเด็ดขาด ควรให้สะเก็ดลอกหลุดไปเอง
• อาจมีอาการแดงหรือบวมเล็กน้อยบ้างเป็นเรื่องปกติ ให้ใช้ Cool pack ประคบ ประมาณ 10-15 นาที หรือจนหายแดง หรือบวม แต่คนไข้จะรู้สึกหน้าตึงจากรูขุมขนที่กระชับขึ้น บางรายอาจเกิดเป็นผื่น คล้ายลมพิษและหายได้เอง ภายใน 24 ชม. โดยเฉพาะในคนไข้ที่มีประวัติภูมิแพ้ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ โดยจะเกิดกับบุคคลที่ร่างกายมีระบบภูมิต้านทานผิดปกติ แก้ไขโดยรับประทานยาแก้แพ้ ในรายที่เป็นนานกว่า 24 ชม. ให้ทายาเพื่อลดระคายเคือง DPT ก่อนนอน เป็นเวลา 3 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติดี
• สามารถล้างหน้าด้วยสบู่ได้ตามปกติ และสามารถทาครีมบำรุงผิวหรือแต่งหน้าได้ตามปกติ โดยเลือกใช้ครีมบำรุงผิว และผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่แพทย์สั่งจ่าย ซึ่งจะไม่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิว
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด ของร้อน แอลกอฮอล์ อาหารรสจัด การเซาว์น่า อากาศร้อน การอยู่ในที่อบอ้าว การขับรถในช่วงเวลากลางวัน การออกกำลังกายหนักๆซึ่งจะทำให้เกิดภาวะหน้าแดง และกระตุ้นให้สีผิวคล้ำได้
• หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือเครื่องสำอางที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิว เช่น แอลกอฮอล์ กรดผลไม้ กรด BHA กรดซาลิไซลิก กรดวิตามินเอ โทนเนอร์ astringent และเครื่องสำอางที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิวอื่นๆ กรณีเกิดการระคายเคือง ให้รีบล้างออกทันที แล้วจึงไปพบแพทย์ เพราะอาจทำให้เกิดแผลแดงนานกว่าปกติ และเกิดอาการผิวคล้ำขึ้นได้
• หลังทำ Alex Laser ควรทำทรีตเม้นต์บำรุงผิวหน้าควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและลดอาการบวมแดง
• หลีกเลี่ยงแสงแดด และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เป็นประจำทุกวัน เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด ลดการเกิดรอยด่างดำ และแผลเป็น โดยควรเลือกครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติกันแดดที่คงตัวมีส่วนผสมของ Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide ที่มีฤทธิ์ช่วยให้กันแดดได้นานขึ้น
• ควรพบแพทย์หลังรับการรักษา 1 สัปดาห์เพื่อติดตามผลการรักษาและควรพบแพทย์อย่างต่อเนื่องทุก 2-4 สัปดาห์ เพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้น
7.) ND Yag Laser รักษากระ ฝ้า จุดด่างดำ หลุมแผลเป็น รอยสัก
การรักษากระ กระลึก ฝ้า ฝ้าลึก จุดด่างดำ ปานดำ และรอยสัก ด้วย Nd Yag Laser ใช้คลื่นอินฟราเรด ที่มีความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร อันทันสมัยที่พัฒนาแสงเลเซอร์ ให้มีช่วงคลื่นจำเพาะ สามารถถูกดูดซับด้วยเซลล์เม็ดสี (Melanin) และสามารถยิงผ่านลงไปได้ลึกถึงระดับเม็ดสีที่ต้องการ โดยใช้ระยะเวลายิงที่สั้นมาก แสงเลเซอร์จะทำลายเฉพาะเม็ดสีเป้าหมายให้แตกสลาย จากนั้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะผลิตเม็ดเลือดขาวมากำจัดเม็ดสีที่ถูกทำลายไป ทำให้รอยโรคค่อยๆจางลง และหายไปในที่สุด โดยส่งผลกระทบต่อเซลล์ข้างเคียงน้อยมาก ทั้งนี้จำนวนครั้งของการรักษา ขึ้นอยู่กับความเข้มสี ขนาด และความลึกของรอยโรค ซึ่งระยะเวลาการรักษาแต่ละครั้ง ควรห่างกันประมาณ 6-8 สัปดาห์ และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การเตรียมตัวก่อนรักษา และการดูแลรักษาหลังเลเซอร์
• หลังทำจะไม่เกิดบาดแผลและไม่มีแผลเป็น แต่อาจมีรอยแดงหรือสีคล้ำขึ้นเล็กน้อย ซึ่งจะหายได้เองภายใน 3-7 วัน
• หลังทำควรทำทรีตเม้นต์บำรุงผิวหน้าควบคู่ไปด้วย เพื่อเสริมการรักษาของเลเซอร์ ช่วยในการรักษาฝ้าและทำให้เม็ดสีจางลง
• สามารถล้างหน้าด้วยสบู่ได้ตามปกติ หลีกเลี่ยงการขัด ถู หรือเช็ดหน้าแรงๆ
• สามารถทาครีมบำรุงผิว หรือแต่งหน้าได้ตามปกติ
• หลีกเลี่ยงการใช้ยา เครื่องสำอาง ที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิว เช่น แอลกอฮอล์ กรดผลไม้ กรด BHA กรดซาลิไซลิก กรดวิตามินเอ โทนเนอร์ astringent และ เครื่องสำอางที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิวอื่นๆ กรณีเกิดการระคายเคือง ให้รีบล้างออกทันที แล้วจึงไปพบแพทย์ เพราะอาจทำให้เกิดแผลแดงนานกว่าปกติ และเกิดอาการผิวคล้ำขึ้นได้
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด ของร้อน แอลกอฮอล์ อาหารรสจัด การเซาว์น่า อากาศร้อน การอยู่ในที่อบอ้าว การขับรถในช่วงเวลากลางวัน การออกกำลังกายหนักๆ เพราะทำให้เกิดภาวะหน้าแดง และกระตุ้นให้สีผิวคล้ำได้
• ควรรับประทานผักและผลไม้สดและดิ่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพผิว
• หลีกเลียงแสงแดดจัดและทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเพื่อคงประสิทธิภาพให้ผิวขาวใสไร้ริ้วรอยยาวนานขึ้น นอกจากนี้อาจจะรับประทานยาหรืออาหารเสริมตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรงลดการไวต่อแสงแดด และลดการสร้างเม็ดสีเพื่อลดรอยดำของผิว
• อาจรับประทานยาหรืออาหารเสริม ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการไวต่อแสงแดดและลดการสร้างเม็ดสี ลดรอยดำของผิว และควรมาพบแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
** หากมีอาการผิดปกติหลังการรักษา ติดต่อ Call-center : 089-9006100 **