โยโย่ เอฟเฟ็กต์ คือ ความไม่สมดุลของร่างกาย ซึ่งเกิดจากการลดน้ำหนักที่ไม่ถูกวิธี หลาย ๆ คนอาจคิดว่า โยโย่นั้นเกิดขึ้นได้จากการทานยาลดน้ำหนัก พอหยุดทานแล้วก็จะเกิดอาการโยโย่ขึ้นมา แต่แท้จริงแล้ว โยโย่เอฟเฟ็กต์ เกิดขึ้นได้กับการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดสมดุลอย่างรวดเร็ว พอกลับเข้ามาสู่ภาวะเดิม กลับกลายเป็นว่าน้ำหนักตัวจะพุ่งขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งเกิดขึ้นจากภาวะที่ร่างกายคิดว่าตัวเราขาดสารอาหาร เมื่อเราอดอาหารหรือลดน้ำหนักเร็วเกินไป ร่างกายก็จะลดอัตราการเผาผลาญพลังงาน เพื่อทำให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานน้อยลง นอกจากนี้ยังมีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ เมื่อเรากลับมาทานอาหารปกติ กลับกลายเป็นว่าร่างกายเผาผลาญน้อยลง สารอาหารไม่ได้ถูกนำไปใช้ แต่กลับเก็บเข้าไปสะสมในร่างกาย กลายเป็นภาวะโยโย่ เมตาบอลิซึมของร่างกายเสียไป ทำให้การลดน้ำหนักหลังการโยโย่นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
ภาวะโยโย่เอฟเฟ็กต์ มีผลเสียอย่างมากต่อร่างกาย ได้มีการศึกษาและค้นพบว่าทุก ๆ 1 กิโลกรัมของน้ำหนักที่เปลี่ยนไป จะเพิ่มอัตราการเสี่ยงของโรคหัวใจถึง 4% และเพิ่มอัตราการเสียชีวิตถึง 9% เพราะฉะนั้น ถ้าเราต้องการลดน้ำหนักเราจึงควรลดน้ำหนักให้ถูกวิธี การลดน้ำหนักอย่างช้า ๆ ลดปริมาณเซลล์ไขมันจำกัดพลังงานส่วนเกินที่ทานเข้าไปในร่างกาย ให้น้อยกว่าพลังงานที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ควรรับประทานอาหารไม่น้อยกว่า 1,250 แคล/วัน ควรลดน้ำหนักอย่างช้า ๆ ใน 1 เดือนไม่เกิน 2 กิโลกรัม เพื่อที่จะทำให้การเผาผลาญอาหารไม่เสียไป
- ห้ามอดอาหาร เพราะจะทำให้เมตาบอลิซึมในร่างกายสูญเสียไปทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกายลดลง เมื่อรับประทานปกติจะทำให้ร่างกายสะสมอาหารมากขึ้น แทนที่จะเผาผลาญไปทำให้เกิดภาวะอ้วน
- ไม่ควรทานยาลดน้ำหนัก เพราะยาลดน้ำหนักพวกนี้ส่งผลเสียต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มยาขับปัสสาวะ กลุ่มยากดประสาท ทำให้ไม่รู้สึกหิว หรือยาที่เร่งการเผาผลาญของร่างกาย จะมีผลต่อระดับความดันโลหิตในร่างกายซึ่งอาจมีปัญหารุนแรงถึงชีวิตได้ และยังมีผลข้างเคียงทำให้นอนไม่หลับท้องผูก และผลเสียต่าง ๆ อีกมากมาย
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกรับประทานอาหารคลีนอาหารไม่แปรรูป ไม่ทานอาหารปรุงแต่ง เช่น น้ำตาลเทียม สารแต่งกลิ่นแต่งสี แต่งรส หรือแม้กระทั่งผงชูรส เลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำทานเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ น้ำผลไม้กล่องแปรรูป หรือเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาลเทียมเพราะจะทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย และส่งผลให้มีปัญหาการทำงานอื่น ๆ ในร่างกาย
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ออกกำลังให้มีการบริหารของหัวใจและหลอดเลือด เพื่อให้มีการเผาผลาญของพลังงานในระยะยาว ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารคลีน
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ
- อย่าเครียด เพราะความเครียดเป็นตัวการสำคัญในการสร้างอักเสบและสามารถทำให้อ้วนได้
จริง ๆ แล้วการลดน้ำหนักที่ดีที่สุด ไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่คือการทำให้สุขภาพร่างกายของเราแข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุด แล้วน้ำหนักส่วนที่มันเกินจะค่อย ๆ ลงไปเอง เกิดสมดุลแก่ร่างกาย ซึ่งเป็นการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีได้ผลอย่างยั่งยืน และไม่เกิดภาวะโยโย่เอฟเฟ็กต์