การฉีดโบท็อกซ์ เป็นการฉีดเพื่อช่วยยกกระชับรูปหน้า ลดริ้วรอย ตีนกา ร่องแก้ม ได้สารพัดอย่าง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม การฉีดโบจึงเป็นวิธีที่สาว ๆ หลายคนนิยมใช้กันมากในปัจจุบัน แต่พอเราฉีดโบซ้ำ ๆ หลายครั้ง ร่างกายดันเกิดปฏิกิริยาต่อต้านและดื้อโบท็อกซ์ขึ้นมา จึงทำให้การฉีดโบไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ควร
สารโบ (Botulinum toxin A) ถูกใช้มานานมากทางการแพทย์เพื่อรักษาคนไข้ที่มีอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง เพราะสารโบ สามารถทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวได้ จากนั้นได้มีการพัฒนาใช้สารโบเข้ามาใช้ในเรื่องความงาม สารตั้งต้นในโบจะมีสารที่ออกฤทธิ์ (Botulinum) และสารที่เกาะอยู่ (ตัวโปรตีน) โดยสมัยก่อนมีความเชื่อว่าเมื่อฉีดสารเข้าสู่ร่างกาย ตัวโปรตีนจะทำการห่อหุ้มสารที่ออกฤทธิ์ไว้ เพื่อไม่ให้ร่างกายทำลาย ทว่าแท้จริงแล้วตัวโปรตีนต่างหาก ที่เป็นตัวทำกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการต่อต้านเยอะขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะการดื้อโบท็อกซ์ขึ้นมา ฉีดครั้งแรกได้ผล แต่ฉีดครั้งต่อ ๆ มากลับได้ผลลัพธ์ที่น้อยลง หรืออาจไม่ได้ผลเลย ซึ่งอาจรวมไปถึงการฉีดไม่ถูกจุดฉีดน้อยเกินไป ทำให้เราต้องเพิ่มปริมาณของโบมากขึ้น ส่งผลให้มีโอกาสที่จะดื้อโบท็อกซ์เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ภาวะดื้อโบท็อกซ์ เป็นปฏิกิริยาที่ร่างกายต่อต้านสารโบทำให้ฉีดโบไม่เห็นผล หรือเห็นผลน้อยลง จากเดิมที่เคยฉีดแล้วอยู่ได้ 4-6 เดือน กลับอยู่ได้เพียง 3-4 อาทิตย์ โดยเฉพาะในบางรายที่ทำการฉีดสารโบจากหลาย ๆ ที่ มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดการดื้อโบท็อกซ์ และหากร่างกายดื้อโบท็อกซ์แล้ว จำเป็นต้องเว้นระยะเวลานาน 3-4 ปี กว่าที่ร่างกายจะปรับสภาพ และกลับมาฉีดโบได้อีกครั้งแต่ก็มีทางเลือก ที่จะจัดการกับคนที่หน้าดื้อโบท็อกซ์ในระยะที่ยังไม่หนักมากโดยมีการพัฒนาสารโบขึ้นมาใหม่ จากการสกัดสารโบซ้ำแล้วซ้ำอีก จนสารโปรตีนที่ผสมอยู่นั้นน้อยลงมาก ๆ เพื่อเอามาใช้แก้ปัญหาคนที่มีอาการดื้อโบท็อกซ์ แต่ก็ต้องฉีดสารนี้เข้าไปเรื่อย ๆ และใช้ระยะเวลาจนกว่าสารต่อต้านโบในร่างกายนั้นจะน้อยลง