โรคผิวหนังสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อค่ะ เพราะว่าสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดเชื้อ การสัมผัสผู้ป่วยสะเก็ดเงิน หรือแม้การสัมผัสตรง ๆ บริเวณที่เป็นผื่นสะเก็ดเงินเลย ก็ไม่ทำให้เกิดการติดต่อเช่นกันค่ะ
สาเหตุของโรคสะเก็ดเงินจากการศึกษาวิจัยล่าสุด ก็พบว่ามาจาก 2 ปัจจัยหลัก ๆ ด้วยกัน
ปัยจัยแรก ก็คือมาจากในเรื่องของพันธุกรรม มาจากยีน แต่ว่าปัจจัยนี้เจอได้น้อยค่ะ
ปัจจัยที่ 2 ที่เจอได้บ่อยกว่า ก็คือ ในเรื่องของการที่ร่างกายเรามีภาวะภูมิคุ้มกันทำงานแปรปรวน หรือที่เรียกว่าภาวะภูมิเพี้ยน หรือว่าภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์ตนเอง ในภาษาอังกฤษก็เรียกว่าเป็นภาวะออโต้อิมมูนค่ะ
พบว่าสะเก็ดเงิน เกิดจากการที่เซลล์เม็ดเลือดขาวของเราทำงานแปรปรวน แล้วก็มาทำร้ายตัวเซลล์ผิวหนังของเราทำให้เซลล์ผิวหนังมีการแบ่งตัวเร็วแล้วก็มีการอักเสบเรื้อรังที่ผิวหนัง
ลักษณะของผื่นสะเก็ดเงินนะคะ โดยมากแล้วก็จะเห็นเป็นลักษณะของผื่นแดงหนามีขอบเขตชัด มีลักษณะของขุยสีขาวหรือว่าสีเงินอยู่บนผื่น ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อสะเก็ดเงินค่ะ ตำแหน่งที่พบก็จะเจอได้ตั้งแต่ที่ศีรษะ ใบหน้า มือ เท้า เล็บ แล้วก็ตามข้อพับต่าง ๆ
เนื่องจากโรคสะเก็ดเงินเป็นโรคที่เกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันทำงานแปรปรวน ดังนั้นปัจจัยใด ๆ ก็ตาม ที่สามารถมากระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันทำงานแปรปรวนเพิ่มขึ้นก็สามารถที่จะทำให้ตัวอาการแย่ลงได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ
1. ความเครียด
2. การพักผ่อนไม่เพียงพอ
3. การเจ็บป่วย
4. การติดเชื้อ
5. การแพ้อาหารบางชนิด
6. การดื่มแอลกอฮอล์
7. การสูบบุหรี่
8. หรือว่าแม้แต่การรับประทานอาหารแปรรูป อาหารที่มีผงชูรส แต่งสี แต่งกลิ่น มีสารกันเสียเหล่านี้ทั้งหมดค่ะ สามารถเป็นปัจจัยที่จะกระตุ้นให้อาการของสะเก็ดเงินแย่ลงได้
ดังนั้นแล้วการรักษาโรคสะเก็ดเงิน นอกจากจะใช้ในเรื่องของยาทา ยารับประทาน การใช้แสงเลเซอร์ หรือว่าการใช้แสงบำบัดแล้ว การดูแลในเรื่องของปัจจัยที่มากระตุ้นอาการสะเก็ดเงินก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่จำเป็นจะต้องดูแลร่วมด้วยค่ะ
ข้อมูลโดย : พญ.นฤมล ทองศรีเนียม
เรียบเรียงโดย : Medisci