วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าเข็มแรกควรให้โดยเร็วที่สุด ในกรณีของการฉีดใต้หนัง เข็มถัดมาจะฉีดในวันที่ 3, 7 และ 28 หลังฉีดวันแรก รวม 4 เข็ม และในกรณีของการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เข็มถัดมาจะฉีดในวันที่ 3, 7, 14 และ 28 รวม 5 เข็ม แพทย์อาจพิจารณาไม่ฉีดวัคซีนจนครบกรณีที่สามารถสังเกตอาการของสัตว์ได้ ส่วนผู้ป่วยที่เคยได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม (วันที่ 0, 3 และ 7) แล้วก่อนสัมผัสโรคครั้งนี้ ไม่ต้องได้รับอิมมูโนโกลบูลิน โดยจะฉีดวัคซีนกระตุ้นในวันที่ 0 และ 3 (รวม 2 เข็ม) เท่านั้น หรือเข็มเดียวกรณีที่เคยฉีดเข็มสุดท้ายไม่เกิน 6 เดือน
อาการปวดและผลข้างเคียงของวัคซีนมีเซลล์สมัยใหม่จะคล้ายกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ การฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อควรฉีดเข้าต้นแขน ไม่ควรฉีดเข้าบริเวณแก้มก้น ในทารกแนะนำให้ฉีดเข้าด้านข้างของต้นขา. หากเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว มาตรการป้องกันโรคหลังสัมผัสมีผลป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 100% ในกรณีที่ให้มาตรการป้องกันโรคหลังสัมผัสช้าอย่างสำคัญ ยังควรให้การรักษาอยู่เพราะอาจได้ผล มีบุคคลกว่า 15 ล้านคนได้รับวัคซีนหลังการสัมผัส แม้จะได้ผลดี แต่ก็มีราคาแพงมา
การพยากรณ เมื่อผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าเริ่มแสดงอาการทางระบบประสาทแล้วจะเสียชีวิตเกือบ 100%หากได้รับวัคซีนอย่างถูกต้องทันทีหลังสัมผัสเชื้อ (ภายใน 6 วัน) จะป้องกันโรคได้เป็นอย่างดี โดยได้ผลถึง 100% หากได้รับวัคซีนทันทีอย่างถูกต้อง. แม้ได้รับวัคซีนช้าก็ยังได้ผลดีพอสมควร
Ref. 2) Jordan Lite (2008-10-08). "Medical Mystery: Only One Person Has Survived Rabies without Vaccine—But How?". Scientific American. สืบค้นเมื่อ 2010-01-30
1)Hemachudha T, Ugolini G, Wacharapluesadee S, Sungkarat W, Shuangshoti S, Laothamatas J (May 2013). "Human rabies: neurop