เสริมสวยให้ดวงตา
     ดวงตา เป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย เพราะดวงตา เป็นหน้าต่างของหัวใจ จึงไม่แปลกเลยที่ใครๆ ก็อยากตาแบ๊ว กลมโตเหมือนตาเด็ก ซึ่งปัจจุบันพบว่าคนเอเชียนั้น นิยมผ่าตัดศัลยกรรมดวงตามากที่สุด ในต่างประเทศถึงกับมีการศึกษาเรื่องรูปทรงของดวงตา พบว่าดวงตากลมโตนี่แหละที่ทำให้ใบหน้ามีเสน่ห์ ดูน่ามอง หลาย ๆ คนมีปัญหาคิ้วตก หนังตาเยอะ มีตีนกา หรือมีริ้วรอยใต้ตาเยอะ ทำให้ดวงตาดูไม่สวย ปัจจุบันจึงมีวิธีแก้ปัญหา และเพิ่มขนาดของดวงตาหลากหลายวิธีเช่น
1.การแต่งหน้า (Makeup) การแต่งหน้า ติดขนตา 2 ชั้น
    การใช้อายไลน์เนอร์
2.ผ่าตัดช่วยเพิ่มขนาดของดวงตา การผ่าตัดหัวตา การผ่าตัดปลายตา
    การทำตา 2 ชั้น ซึ่งสามารถทำให้ดวงตาโตขึ้น 10-15%
    หรือการผ่าตัดยกคิ้ว จะทำให้ตาโตขึ้น
3.การใช้สารโบท็อกซ์ (Botulinum toxin) ในการฉีดเพิ่มขนาดของด้วงตา
    ซึ่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ และเทคนิคในการฉีด เช่น การฉีกเพื่อยกคิ้ว
    การฉีดเพื่อลดรอยใต้ตา เพื่อที่จะทำให้ดวงตาโตขึ้น
4.การใช้คลื่นเสียง หรือคลื่นความถี่วิทยุ ช่วยในการกระชับผิว
    ทำให้มีการยกคิ้วขึ้นเพื่อทำให้ดวงตาโต
5.การปลูกถ่ายเซลล์ไขมัน (fat Graft) ช่วยลดรอยคล้ำใต้ตา
    ทำให้สภาพโดยรวมทั้งหมดของตา ดูสดใสน่ามองมากยิ่งขึ้น
วิธีทำตาให้สวย
     ปัญหาสุขภาพของดวงตาก็เป็นสิ่งสำคัญ หลาย ๆ คนมีอาการเสื่อมลงของสายตา เช่น อาการสายตายาว พออายุเกิน 40 ปีขั้นไป ก็จะเริ่มมีปัญหาการเสื่อมของกล้ามเนื้อตา หรือเป็นโรค (Computer Vision Syndrome) เป็นกลุ่มของอาการทางตาและการมองเห็น ที่มีผลมาจากการใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยมีอาการตาแห้ง ปวดแสบตา ระคายเคืองตา น้ำตาไหล ดังนั้นเราจึงควรถนอมสายตาให้มากขึ้น โดยมีวิธีดังต่อไปนี้
วิธีเสริมตาให้สวย
1.กำหนดระยะห่างในการใช้คอมพิวเตอร์ ประมาณ 16 – 30 นิ้ว
    หน้าจอคอมพิวเตอร์ควรพอดีกับระดับ หากต้องใช้คอมพิวเตอร์
    เป็นเวลานาน ๆ ควรหยุดพักสายตา 10 -15 นาที หากเริ่มมีปัญหา
    ระคายเคืองตา แสบตา น้ำตาไหล ควรไปพบแพทย์
2.ระวังการใช้เครื่องสำอางค์ เครื่องสำอางค์ที่ใช้บริเวณดวงตา
    ควรเปลี่ยนใหม่ทุก 3-4 เดือน หรือการใช้ยาเฉพาะที่ เช่น ยาหยอดตา
    เมื่อเปิดใช้แล้วมีระยะเวลา 1 เดือน ไม่ควรใช้เกินกว่านั้น
3.การบริหารสายตา เป็นการบริหารกล้ามเนื้อลูกตา เช่น การเกร็งตา
    หรือเคลื่อนไหวสายตาเป็นจัวหวะ จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อลูกตาแข็งแรงขึ้น
    ลดการเหนื่อยล้าจากการใช้สายตาเป็นเวลานาน ๆ
4.การกดจุด (Acupressure) เป็นศาสตร์การแพทย์ของจีน โดยการใช้
    นิ้วมือกดลงตามจุดต่าง ๆ แทนการฝังเข็ม โดยใช้นิ้วมือกดลงบริเวณ
    ที่เป็นเส้นประสาท เป็นเวลา 5-8 วินาที ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
    ลดภาวะช้ำของดวงตา ช่วยให้ดวงตาแข็งแรงขึ้น
     การดูแลสุขภาพ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์  ไม่ทานอาหารแปรรูป หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสเค็ม หรืออาหารที่มีการแต่งสี แต่งรส การออกกำลังกายเพื่อขับสารพิษออกจากร่างกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน่ำสะอาด รับประทานผักหรือผลไม้ที่มีสีสัน หรือการรับประทารอาหารเสริมในกลุ่มของเบต้าแคโรทีน ที่มีผลในการในการช่วยบำรุงสายตา ช่วยลดและชะลอความเสื่อมของสายตาได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้